ทต.บางละมุง นำที่ดินจังหวัดชลบุรี กรมเจ้าท่า ร่วมรังวัดแนวเขต อาคารชุดริมหาด หลังถูกร้องเรียนรุกล้ำที่สาธารณะ ยืดเยื้อกว่า 30 ปี ไม่มีอะไรคืบหน้า
ที่บริเวณชายหาด ม.2 ตำบลบางละมุง (24 พฤษภาคม 2567) ว่าที่ร้อนตรีจเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นากยเทศมนตรีตำบลบางละมุง นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่า และผู้แทนอาคารชุด ร่วมรังวัดที่ดินบริเวณด้านหลังอาคารชุดดังกล่าว ซึ่งติดกับคลองชะเลือด หลังจากประชาชนในพื้นที่ตำบลบางละมุงร้องเรียนว่าอาคารชุดดังกล่าวรุกล้ำที่สาธารณะ ซึ่งเรื่องยืดเยื้อมานานกว่า 30 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่เทศบาลฯ แจ้งความไว้ที่สภ.บางละมุง มานานกว่า 3 ปี
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบันทึกกองช่าง บันทึกข้อความที่ ช.232/2559 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ว่า อาคารชุดดังกล่าวได้บุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่สาธารณประโยชน์ บริเวณคลองชะเลือด ในระวางแผนที่ ตราจองที่ 1286 และ 540 หน้าสำรวจ 29 และ 14 โดยมีพื้นที่ อาทิ สนามหญ้า สระว่ายน้ำบางส่วน ศาลานั่งเล่น และรั้ว ล้ำเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งล่าสุดทางเทศบาลตำบลบางละมุง ได้ประสานกับที่ดินจังหวัดชลบุรี ในการรังวัดที่ดิน เพื่อออกหนังสือ น.ส.ล. (หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) บริเวณส่วนที่เป็นพื้นที่สาธารณกว่า 9 ไร่ ให้มีความชัดเจนและถูกต้อง หากที่ดินได้ออกหนังสือสำคัญ น.ส.ล.ให้กับเทศบาลเสร็จสิ้น และพบว่ามีการคัดค้าน ขั้นตอนต่อไปคือการฟ้องศาลเพื่อพิสูจน์สิทธิกันต่อไป
ว่าที่ร้อยตรีจเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบางละมุง เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินการรังวัดที่ดินสาธารณของเทศบาลถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเป็นปัญหาที่เรื้อรัง ยืดเยื้อกันมากว่า 33 ปี ที่ผ่านมาพยายามดำเนินการให้ถูกต้องมาตลอด แต่มาติดขัดที่ปัญหาหลายประการ มาในครั้งนี้ที่ดิน 9 ไร่กว่าที่เป็นที่สาธารณะของพี่น้องชาวบางละมุงต้องกลับมา
นายกทต.บางละมุง กล่าวอีกว่า หากใช้ภาพถ่ายทางอากาศแผนที่ทหารมาประกอบการดำเนินการครั้งนี้ น่าจะพิสูจน์สทธิกันไม่ยาก ในอนาคตถ้าได้พื้นที่สาธารณะกลับคืนมา ทางเทศบาลฯ เตรียมผลักดันให้มีสวนสาธารณะของตำบลบางละมุง จะมีการสร้างตลาดลูกน้ำเค็ม ให้พี่น้องชาวประมงพื้นบ้านนำกุ้ง หอย ปู ปลา มาจำหน่ายโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ระยะยาว ถือเป็นเป้าหมายหลักขอผู้บริหารเทศบาลฯ ที่ต้องทำให้สำเร็จ พร้อมกันนี้จะต่อสู้จนถึงที่สุดให้ได้ที่สาธารณะประโยชน์กลับคืนมาให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน.