“แจ็ค หนองปรือ” คอตกเข้าห้องขัง หลังสารภาพทำปืนลั่นใส่ลูกชายวัย 9 ขวบ เจ็บสาหัส อ้างเก็บปืนได้จากใต้สะพาน

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 19 เม.ย. พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมชนก ฟักไพโรจน์ รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ต.อภิชาติ บุญเกิด สว.สส.ฯ ได้นำกำลังชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายธีระพล อายุ 41 ปี หรือ แจ็ค ไปสอบปากคำหลังต้องสงสัยทำอาวุธปืนลั่นใส่ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ ลูกชาย ได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลบางละมุง

สืบเนื่องจาก เวลาประมาณ 16.30 น.ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.หนองปรือ รับแจ้งจาก รพ.บางละมุง ว่ามีเด็กชายได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน โดยมีพ่อเป็นผู้นำเด็กมาส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง เหตุเกิดขึ้นที่บ้านพักใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบทันที พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นห้องเช่าลักษณะปิดประตูไม่มีใครอยู่

จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. ชุดสืบสวนได้โทรศัพท์เชิญตัว นายธีระพล หรือ แจ็ค ผู้เป็นพ่อ มายังจุดเกิดเหตุเพื่อเปิดล็อคประตูเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาพยานและเก็บหลักฐาน ตรวจสอบพบอาวุธปืนแบลงค์กัน ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาดเดียวกัน 1 นัด และซองพกสีดำ วางอยู่บนหัวเตียงนอนโดยมีหมอนวางทับไว้ ซึ่งในตอนแรก นายแจ็ค อ้างว่า ลูกชายเป็นคนทำปืนลั่นใส่ตัวเอง แต่ด้วยพยานหลักฐานที่พบและสืบทราบมานั้น ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ตร.จึงยึดอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว ก่อนควบคุมตัว นายแจ็ค ไปสอบปากคำ ที่ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง จนนายแจ็ค จึงยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ทำปืนลั่นใส่ลูกชายตัวเอง

ทั้งนี้ นายแจ๊ค ให้การว่าก่อนเกิดเหตุขณะจะเอาอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวที่เก็บไว้ในปลอกหมอน ออกมาเอาไปเก็บอีกที่หนึ่ง กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อปืนเกิดลั่นขึ้นมา1ครั้ง และพบว่ากระสุนพลาดไปโดนบริเวณสะโพกซ้ายของตัวลูกชาย จนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เมื่อตั้งสติได้ก็รีบพาลูกชายส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว เจอตกอยู่บริเวณใต้สะพานหนองปรือ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เลยคิดจะเก็บไว้ป้องกันตัว แต่สุดท้ายเกิดพลาดทำปืนลั่นใส่ลูกชายตัวเองได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้นตำรวจนำตัวนายแจ๊ค ที่มีสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความเครียด เข้าห้องขังโดยแจ้งข้อกล่าวหา นายแจ็ค ในฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต“ ส่วนข้อหาอื่นคงจะต้องสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ส่วนอาการของเด็ก ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว.