ตร.ตามรวบสาวโกงเงินซื้อขายทุเรียน เสียหายหลายล้านบาท หลังหลบหนีคดีเกือบปี ผู้เสียหายแห่เข้าแจ้งความเพียบ

ที่สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงเงินซื้อขายทุเรียน จำนวนหลายราย ทั้งผู้เสียหายที่ล้งรับซื้อ และผู้เสียหายที่เป็นเกษตรกร และสายตัดทุเรียน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับร้อยตำรวจเอก โพธิ์ พิกุล ร้อยเวร สภ.ท่าใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางสาวสุนทรี อายุ 40 ปี และนายธรีพงษ์ อายุ 20 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง

คดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อปีที่ผ่านมา นางสาวสุนทรี ได้มีการติดต่อซื้อขายทุเรียนจากเกษตรกรโดยตรง และจากสายตัด โดยมีการเสนอราคาที่สูงกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้มีเกษตรกร และสายตัด จำนวนหลายรายในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี หลงเชื่อและมีการติดต่อซื้อขาย ทุเรียนกับนางสาวสุนทรี โดยเมื่อมีการนำทุเรียนไปที่ล้งเพื่อชั่งน้ำหนัก และคัดเกรดทุเรียน ดำเนินการกระบวนดังกล่าวเสร็จแล้ว ก็จะหลอกให้เจ้าของล้งโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง แต่หลอกเจ้าของล้งว่าบัญชีดังกล่าว เป็นของเกษตรกร ส่งผลให้เกษตรกรความเข้าใจผิดว่า ล้งไม่โอนเงินให้หลังซื้อขายเสร็จ และเมื่อเกษตรกรได้ทวงถามเงินจากล้ง ล้งได้แจ้งว่า โอนเงินให้แล้ว มารู้ภายหลังว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวไม่ใช่ของเกษตรกร มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.มะขาม และสภ.ท่าใหม่ รวมทั้งในพื้นที่ จ.ชุมพร

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้และฝากขังไว้ที่ สภ.มะขาม ก่อนส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดจันทบุรี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกัน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท เกรงว่าหากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี

น.ส.วีกัญญาณัฏฐ์ ชัยพฤกษ์ ผู้จัดการล้ง หยง หยง 666 กล่าวว่า วันนี้ มาเป็นแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว ช่วงวันที่ 13-15 เมษายน 2566 ผู้ต้องหารายนี้ ใช้ชื่อ มุก ได้เข้ามาติดต่อเพื่อเอาทุเรียนมาขายจำนวน 9 ตัน ทางล้งได้โอนเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าทุเรียนที่ซื้อทุกวัน วันละ 1-2 ล้านบาท โดยผู้ต้องหารายนีัอ้างว่า เลขบัญชีที่ให้โอน เป็นเลขบัญชีของชาวสวน แต่มารู้ที่หลังว่า เลขบัญชีดังกล่าวเป็นของผู้ต้องหา ล้งมีหลักฐานการโอนเงินทุกวัน และหลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สภ.มะขาม ส่วนการเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติม เพื่อแสดงความบริสุทธิใจว่าล้งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายนี้ โดยผู้ต้องหารายนี้ จะเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ ทั้ง นิว, มุก, น้ำ, หลุยต์ และก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งทั้งใน จ.ชุมพร และจันทบุรี

ด้าน เจ้าของแผงทุเรียน 888 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทำที่เหมือนเป็นหน้านาย และเข้ามาติดต่อขอเอาลงทุเรียนมาขายที่แผง และนำเลขบัญชีมาให้แผงโอนเงิน โดยอ้างว่าเป็นเลขบัญชีของลูกค้า ปรากฏว่าเลขบัญชีดังกล่าว เป็นของผู้ต้องหาเอง พอลูกค้าลงทุเรียนเสร็จแล้ว มาทวงถามแผงว่าทำไมไม่โอนเงินให้ จึงมารู้ความจริงว่า ถูกหลอกทั้งลูกค้าและแผงรับซื้อทุเรียน โดยมียอดการโอนเงิน 800,000 -900,000 บาท โดยล้งได้แสดงความรับผิดชอบ จ่ายเงินค่าทุเรียนลูกค้ารายดังกล่าว จากนั้นจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน จากการสอบถามล้ง และแผงรับซื้อทุเรียน มีผู้ถูกหลอกในลักษณะนี้หลายราย มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

ส่วนนางสาว จิดาภา ใช้ลิ้ม เจ้าของแผงระยองลูกหนามซิ่ง และเป็นเกษตรกร กล่าวว่า ผู้ต้องหาติดต่อมาจากแชต ต้องการซื้อทุเรียนในสวนของตนเอง โดยให้ราคาสูงกว่าเจ้าอื่นๆ ตนเองจึงตัดสินใจขาย เมื่อลูกน้องนำทุเรียนไปส่งที่ล้งแล้ว ได้ไล่ให้น้องตนเองกลับทันที่ โดยอ้างว่าเดี๋ยวล้งจะโอนเงินเอง แต่เมื่อผ่านไป 4-5 วัน ล้งก็ยังไม่ได้โอนเงินให้ จึงได้เข้าไปสอบถามล้งดังกล่าว ปรากฏว่า ล้งแจ้งว่าได้โอนเงินไปให้แล้ว จึงมารู้ที่หลังว่าถูกหลอก โดยมีมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 1,600,000 -1,700,000 บาท หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สภ.มะขาม และมาแจ้งความเพิ่มเติมที่ สภ.ท่าใหม่ เพราะเกิดเหตุในสองพื้นที่ และในขณะนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูกาลทุเรียนของจังหวัดจันทบุรี จึงฝากไปยังเกษตรกรอย่าไว้ใจใครง่ายๆ ยิ่งผู้ที่ให้ราคาสูงกว่าปกติ เพราะอาจจะเป็นมิจฉาชีพ