+บทความศาลไคฟง

จากใจ…”บ.ก.อั๋น” วันนักข่าว“ชมรมสื่อมวลชนเมืองพัทยา”

5 มีนาคม “วันนักข่าว”

ปีนี้นอกจากตรงล็อควันหยุดสุดสัปดาห์ “แฮปปี้ ฮอลิเดย์ “ อาทิตย์เจิดจ้าแดงแจ๋สดใสแล้ว….

ยังเป็นวันแรกของ “คิมหันตฤดู” วนลูปเข้าสู่หน้าร้อนแห่งปีกระต่ายทอง 2566 อีกครั้งอย่างเป็นทางการ ตามคำประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา… อีกด้วย

ลมฟ้าอากาศ ย่อมผันแปรเปลี่ยนไปตามวิถีธรรมชาติบนเส้นแสงแห่งกาลเวลา!

แต่“จิตวิญญาณ” วิถีคนข่าว…ยังมั่นคงดั่งภูผาบนรากเหง้าศิลาแกร่งแห่งอุดมการณ์ ไร้สิ่งใดมาสั่นคลอนง่อนแง่น ให้แปรเปลี่ยนเฉกเช่นฤดูกาลไปได้!!

อุดมคติ “นกน้อยในไร่ส้ม”เคยดำรงตนมาเยี่ยงไร มิเคยผันผวนหอบหายไปกับกาลเวลา ยังคงเต็มล้นและเข้มข้นไปด้วยสัญชาตญาณ “หมาเฝ้าบ้าน” ที่คงความซื่อสัตย์ ด้วยความจงรักภักดีต่อเจ้าของบ้าน ไม่เสื่อมคลาย

“นักข่าวพันธุ์หมา” หรือ หมาเฝ้าบ้าน คำๆ นี้ดูเหมือนอุปมาอุปไมยได้อย่างโดนใจและตรงปกที่สุด…

นักข่าว คือผู้รวบรวมข้อมูลรอบด้านมานำเสนอ ขุดค้นด้นดั้น “แซะความจริง” ที่ซ่อนอยู่ลึกกว่าข้อเท็จจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชน

ว่ากันว่าหมา (บางตัว) ที่เห่า มักไม่กัด แต่การจะเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดีนั้นจะต้องเห่าได้ และกัดเป็น!!

อีกทั้งยังต้อง “เห่า” ทุกครั้งเมื่อมีเภทภัยบุกมากล้ำกรายทำร้ายสังคม เป็นการส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของบ้านรู้เนื้อรู้ตัว

หากเห่าแล้ว แต่มหาโจรที่กำลังปีนขึ้นบ้าน ยังไม่ยอมหยุดยั้งกระทำความชั่วร้าย หมาเฝ้าบ้านก็พร้อมยอมตาย ทำหน้าที่กระโจน “กัด” ฟัดไม่ยั้ง ทั้งเขย่า ทั้งขย้ำ ฝังคมเขี้ยวทะลุทะลวงถึงกระดูก เพราะขืนปล่อยไว้ความหายนะ จะส่งผลวิกฤตต่อสังคมและประเทศชาติ

นี่คือสันดานหมาเฝ้าบ้านโดยแท้!

ด้วยเหตุนี้…วิถีคนข่าว ย่อมไม่อาจหลีกพ้นคำว่า “คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ”ไปได้ เรื่องไม่ดี คือข่าวดี มันคือกุญแจดอกแรกอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา อันนำมาซึ่งประโยชน์ต่อประชาชน นั่นแหละคือจุดหมายปลายทางของการทำหน้าที่ของคำว่า “สื่อมวลชน” ที่ค้ำคออยู่

ทำข่าวหนึ่งชิ้นได้ทั้งมิตรและศัตรู… มันคือสัจธรรม!

แต่หากเป็น “นักข่าว” ชอบทำตัวกะลิ้มกะเหลี่ย เคลียคลอเคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู น่ารัก น่าชัง ชอบชิวหาพาเพลิน “เลีย” ได้ทุกหนทุกแห่ง อวยได้ในทุกสถานการณ์ คงเป็นได้แค่ “นักข่าวพันธุ์แมว”เชื่องๆ ตัวหนึ่ง หรือแค่ “นักข่าวพันธุ์ครึ่งบกครึ่งน้ำ” ที่โดนชำแหละทำลูกชิ้น เท่านั้น!?!?

วันนักข่าว 5 มีนาคมศกนี้ ในนาม “ชมรมสื่อมวลชนเมืองพัทยา” ซึ่งก่อกำเนิดเกิดขึ้นมาจากการผนึกมือของพี่น้องสื่อมวลชนจากสำนักข่าวต่างๆไม่ว่าจะเป็นนักประชาสัมพันธ์ นักข่าวโทรทัศน์-เคเบิ้ลทีวี หนังสือพิมพ์ นักข่าวและผู้ผลิตสื่อฯออนไลน์ทุกแขนง

ปฐมบทของการสร้าง “รังใหม่” ภายใต้ชื่อ “ชมรมสื่อมวลชนเมืองพัทยา” ขึ้นมานั้น เป็นการรวมตัวของคนข่าวที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ตัดสินใจก้าวลงเรือลำเดียวกันพายทวนกระแสน้ำ

เพื่อทำหน้าที่เป็น “โซ่ข้อกลาง”นำข่าวสารรอบด้านจากหน่วยงานภาครัฐ-บริษัท ห้างร้าน องค์กรเอกชน เดลิเวอรี่ส่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง อย่างเที่ยงตรง แม่นยำ เป็นธรรม โปร่งใสและชัดเจน

เรา…ขออาสาทำหน้าที่เป็น “ไม้ตีกลอง” ประโคมรัวลงแผ่นหนัง ตีให้ดังสนั่นกึกก้องไปถึงหูประชาชน

ขณะเดียวกันในมุมกลับก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อทุกข์เข็ญของประชาชนได้เช่นกัน

เราจะทำหน้าที่กระจกเงาบานใหญ่ สะท้อนภาพความจริงไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ให้ได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน จนได้รับการเยียวยา ช่วยเหลือ แก้ไข “หนักเป็นเบา ทุเลาเป็นหาย” นั่นคือเป้าหมายของชมรมฯ

เราไม่คิดแข่งกับใคร… แต่เรากำลังแข่งกับตัวเอง อยู่บนลู่วิ่งความดี ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นต่อสังคม ก้าวตามรอยอุดมการณ์ ต่างหาก!

ในท้ายที่สุดนี้ กระผม “บ.ก.อั๋น” อธิบดี บุญชารี ในฐานะประธาน “ชมรมสื่อมวลชนเมืองพัทยา” พร้อมด้วยพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์ที่อยู่ภายใต้ร่มเงาชายคาเดียวกัน ได้พร้อมใจร่วมกันถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ โดยจัดขึ้นในวันนักข่าว 5 มีนาคม เวลา 10.00 น. ณ วัดหนองใหญ่ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับนักข่าวผู้วายชนม์ อีกทั้งยังเป็นการรำลึกถึงอดีตคนข่าวทุกท่าน เมื่อครั้งเคยสุขร่วมเสพ ทุกข์ร่วมต้าน ด้วยกันมา บนถนนน้ำหมึกที่มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสายนี้…

เรา…จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แม้แผ่นดินกลบหน้าไปแล้วก็ตาม…

“ อั๋น พันดาว”