วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
+บทความศาลไคฟง

บุหรี่ไฟฟ้า ช็อตดับ! “ทรงอย่างแบด” เจ้าหน้าที่โฉด

ออกมาเตือนกันปากเปียกปากแฉะ…แงะให้เห็นถึงก้นบึ้ง รู้ซึ้งถึงพิษสงมฤตยูสีขาว“ควันบุหรี่”ร้ายแรงถึงฆ่าคนได้!

แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับไม่ยี่หระ!

ในแต่ละปี “เพชฌฆาตมวนขาว”ลากชีวิตสิงห์อมควันไปลงขุมโลกันต์นับหมื่นนับแสนราย แถมยังมีพวกที่กำลังผ่อนส่งความตาย รอรับบัตรคิวจากยมบาลอีกหลายล้านคนบนโลกนี้!!

จะว่าไป…เพชฌฆาตมวนขาวที่ว่าร้ายเหลือ…แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งน่ากลัวกว่ามากมายหลายขุม?

“บุหรี่ไฟฟ้า” ทูตมรณะแห่งปีที่กำลังมาแรง!

เหนือกว่า ร้ายกว่า แรงกว่า อันตรายมากกว่า พิษสงรุนแรงทวีคูณ…ฆ่าคนตายได้อย่างเฉียบพลัน!?!?

เพียงแค่เริ่มต้นปีกระต่ายทอง กองโจร(ในเครื่องแบบ) 6 นาย ต้องสังเวยชีวิต (ราชการ) ตายทั้งเป็นเพราะบุหรี่ไฟฟ้า ขณะตั้งด่านตรวจบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าสถานทูตจีน ท้องที่ สน.ห้วยขวาง ใจกลางกรุงเทพมหานคร…

โดยตำรวจนอกรีตทั้ง 6 นาย ร่วมกันสร้าง “วีรเวร” เขย่ากรมปทุมวัน ปฏิบัติการปี๊บคลุมหัวประเทศไทย กระฉ่อนฉาวไปทั่วโลก ด้วยวิธีการอันสุดบัดซบ ยัดบุหรี่ไฟฟ้า ข่มขู่ตบทรัพย์ “อันหยูชิง”ดาราสาวชาวไต้หวัน พร้อมกับเพื่อน เป็นเงิน 27,000 บาท หลังจากกลุ่มของเธอนั่งแกร็บคาร์กลับจากไปฉลองปีใหม่สถานบันเทิงย่าน อาร์ ซี เอ.

ภายหลังจากที่ดาราสาวกลับถึงไต้หวัน และเธอได้เขียนประสบการณ์ความเลวระยำตำบอนที่เจอกับตัวเอง ลงในไอจีส่วนตัว….

โลกทั้งใบโฟกัสสายตา “หมาต๋า ไทยแลนด์” ทันที มองเหยียดหยาม แบบไร้ราคา…

เท่านั้นแหละ…ไฟบรรลัยกัลป์บุหรี่ไฟฟ้าลุกพรึ่บ! บ่าท่วมยุทธจักรดาวเงิน…เกียรติยศ ชื่อเสียง ความเชื่อมั่น ความศรัทธา “ฉิบหายขายที่นี่” หน้าตาของประเทศ ยับเยินเป็นจุณ!

ถึงแม้ว่าต้นสังกัด สน.ห้วยขวาง จะพยายามใช้สีข้างถูจนถลอกปอกเปิก งัดเล่ห์เหลี่ยมวิชามาร ปั้นพยานเท็จ เพื่อกลบเกลื่อน “โยนขี้” โบ้ยผิดให้ดาราสาวเป็นแพะรับบาป แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด หลักฐานมัดคอแน่นหนา

ตำรวจทรงอย่างแบด ร้อยตำรวจเอก 2 นาย พร้อมชั้นประทวนอีก 4 นาย ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ ถอดเครื่องแบบ โดนหิ้วปีก ผ้าคลุมหัว เดินคอตกเป็นนกปีกหัก เข้าซังเตอย่างหมดสภาพ….

“แรงกรรม5G” เร็วกว่า แรงกว่าติดหัวรบจรวดนิวเคลียร์!!

กระแสปี๊บฟีเวอร์ปะทุตามหลัง….ข่าวว่า “เฮียชู”แกจะเหมาเอาไปให้ “บิ๊กกากี”คลุมหัว!!

นครบาลโดนบุหรี่ไฟฟ้าจี้พุงสะดุ้งโหยงตัวโยนไปแหม็บๆแบบยังไม่ทันหายปวดแสบปวดร้อน ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก หนังม้วนเดิมแต่มาผุดขึ้นในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 2…

ฉาวซ้ำงามไส้ละไมไทยแลนด์ อีกดอก!

ต้นเรื่องฉาว..อุบัติขึ้นที่เมืองท่องเที่ยวระดับโลก…พัทยา

สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย โชว์หลักฐานร้องผ่านรายการทีวีชื่อดัง “โหนกระแส” กระชากหน้ากากแฉความอัปยศ “หมาต๋า” นายหนึ่งสังกัด สภ.เมืองพัทยา ใช้อำนาจบาตรใหญ่ตั้งศาลเตี้ยเรียกเงิน 6 หมื่นบาท หลังตรวจค้นนักท่องเที่ยวชาวจีนพกบุหรี่ไฟฟ้า เหตุเกิดช่วง 28-29 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

แต่สุดท้าย หลังเจรจาต้าอ่วย ลื่นไหลตามสไตล์ “สีกากี-กา กี่ นั้ง” จบตรงที่เหยื่อชาวจีน ต้องควักตังค์จ่ายไป ในราคาโปรฯ ลดกระหน่ำ 50 เปอร์เซ็นต์ เหลือตัวเลขเงินบาปเข้ากระเป๋าผู้พิทักษ์ปวงชน “นายดาบตำรวจ” ผู้นั้น ไปเน๊าะๆ 3 หมื่นบาท….

งานนี้มีหลักฐานภาพถ่ายลายแทงชัดเป๊ะ ขนาด พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.ชลบุรี ไม่มีคำว่ารีรอ หรือกรอภาพรีเพลย์ซ้ำ สั่งการด่วน ให้เร่งตรวจสอบ จนรู้แน่ชัด จึงลงดาบ “เชือดไก่ ให้ไข่ดู” ทันทีไม่มีรั้งรอ….

คมดาบแรกตวัดปากกาเซ็นคำสั่งเด้ง ด.ต.นพกฤษฎิ์ หรือ “ดาบไข่” พรวัฒนธนกิตติ์ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา ออกพ้นพื้นที่ไปประจำ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เมื่อ 31 มกราคม 2566 ตามด้วยคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดอาญาฯมาตรา 149 และ157

ตามมาติดๆด้วยพิธีกรรมตอกตะปูฝาโลงสำทับด้วย “คำสั่งประหาร” เสมือนดาบคมที่สอง สั่งเชือด “ดาบไข่” ตามคำสั่งที่43/2566 ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ให้ออกจากราชการไว้ก่อน!

กระนั้นเจ้าตัวก็ยัง “ยืนกรานกระต่ายขาเดียว” ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา รวมทั้งเรื่องรีดเงินนักท่องเที่ยวชาวจีน พร้อมกับยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง…

อีกไม่นานความจริงจะปรากฎ ถึงแม้ว่าสังคมจะคิดไปในทางลบว่าสุดท้ายแล้ว พอเรื่องเงียบมันจะเป็นละครน้ำเน่า “ตั้งไข่ล้ม ต้มคนดู” หรือเปล่า….?

“หนอนสำนวน” จะชอนไช “ไข่เน่า” ไปได้ไกล เจาะลึกถึงระดับไหน ผลประโยชน์พัวพันเกี่ยวข้องกับกลุ่มไหน หรือมีใครที่คอยชักใยเบื้องหลัง ? สังคมใคร่อยากรู้ และยังคงเกาะติดอย่างไม่เลิกรา…

“หนอนสำนวน” จะเจาะทะลุทะลวงดุดัน แบบไม่เกรงใจใคร!แค่ไหน?อย่างไร?สังคมจับจ้องไม่ละสายตา…

จะเถรตรงเป็น “ไม้บรรทัด” หรือ “น้ำยาฟอกขาว” ว่าไปตามเนื้อผ้าอย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง…

บรรทัดนี้ขอเอ่ยปากจากใจจริงๆเลยนะ ช่วงนี้เห็นใจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มากที่สุด

ไม่รู้ว่าดวงของท่านตกปีชงหรืออย่างไร? เจอแต่เรื่องหนักๆ “พระศุกร์” เริ่มเข้าตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องเครือข่ายทุนจีนสีเทา คดีบ่อนการพนัน คดียาเสพติด คดี “ตู้ห่าว”ลากยาวข้ามศักราชใหม่ “พระเสาร์”ก็เข้ามาเสียบต่อซะงั้น

ควันพลุฉลองปีกระต่ายทองไม่ทันจาง ต้องมานั่งสางคดีดาราสาวไต้หวัน ตามด้วยบ่อนพนันออนไลน์ “มาเก๊า888” ซึ่งแต่ละคดีล้วนแล้วแต่มีตำรวจแตกแถวบางคนบางกลุ่มเข้าไป “เกี่ยวดองหนองยุ่ง” ไต่ยั้วเยี้ยชอนไชอาจมธุรกิจสีดำ-เทา ทุกวงจร…

ทุกเคสเลวสุดขั้ว ชั่ว สุดหล้า แบบว่าสามารถส่งไปโกยชิงรางวัล “ซาตาน อวอร์ด”ได้อย่างสบายแฮ…

ได้เวลา “รื้อพรม” กวาดขยะเน่าเหม็น ในยุคที่ท่านยังกุมบังเหียนอยู่ก็ดีครับ แสงออร่าจะได้สาดไล่ความหมอง “อาณาจักรดาวเงิน” แวววาวใสขึ้นมาบ้าง…

เป็นพระต้องสวด…. เป็นตำรวจต้องจับ!

หน้าที่ “สัปเหร่อ” หามผีถึงป่าช้า…ไม่เผาก็ฝัง…เท่านั้นครับ!!

อั๋น พันดาว