ตร.ทท.ยันไม่นิ่งนอนใจ ตามตรวจสอบที่พักเด็กหญิงลูกครึ่งเดินไปสนามบิน ไม่พบความผิดปกติ แต่พ่ออเมริกันเป็นคนเข้มงวด

จากกรณี เด็กหญิงชาวลูกครึ่ง อเมริกัน-จีน อายุ 10 ปี เดินจากที่พักย่านจอมเทียน จ.ชลบุรี เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อบินไปหามารดาที่ประเทศจีน แต่มีพลเมืองดี คือ นายภูมิภัทร ชัยชนะ อายุ 23 ปี พนักงานบริการน้ำจืด รถน้ำพัทยา นายจักรกฤษณ์ อ้นศรีสวัสดิ์ อายุ 34 ปี เถ้าแก่ และนางสาวภาวดี บูรณะกิติ อายุ 28 ปี ภรรยาเถ้าแก่ มาพบและแจ้งตำรวจให้ช่วยเหลือ ก่อนประสานบิดาของเด็กมารับตัวไปแล้วนั้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ว่าทางตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้ปล่อยปละละเลยในประเด็นนี้ หลังจากส่งตัวเด็กหญิงรายนี้คืนให้กับพ่อชาวอเมริกัน ทางตำรวจท่องเที่ยวได้ติดตามไปยังที่พักของเด็กหญิง เป็นโรงแรมย่านจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง

พ.ต.ท.พิชญะ กล่าวอีกว่า จากที่ได้พบพ่อชาวอเมริกัน ของเด็กหญิง พบว่า ไม่ค่อยให้การตอบรับเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร ส่วนเด็กหญิงนั้นไปโรงเรียน โดยจากการสอบถาม พนักงานโรงแรมหลายคน เปิดเผยว่า พ่อลูกชาวต่างชาติรายนี้ พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ มากว่า 3 ปีแล้ว โดยเด็กหญิงลูกครึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ส่วนพ่อชาวอเมริกันเป็นคนไม่ค่อยพูดและค่อนข้างเข้มงวด สำหรับกิจวัตรในทุกวัน เด็กหญิงจะลงมากรอกน้ำดื่มเวลาประมาน ตี4-ตี5 และทานอาหารเช้าพร้อมกับพ่อเวลาประมาน 6 โมงเช้า บางวันจะมีการปั่นจักรยานและเดินออกกำลังกายบ้าง และเด็กหญิงจะลงมาทำการบ้านที่หน้าบริเวณโถงด้านล่างโรงแรมอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนพฤติกรรมที่น่าสงสัยหรือผิดปกติ อย่างการทำร้ายร่างกาย หรือทารุณกรรม ไม่เคยพบเห็นแต่อย่างใด เป็นพ่อลูกชาวต่างชาติทั่วไป แต่เพียงพ่อค่อนข้างจะมีระเบียบและเข้มงวดเท่านั้นเอง ซึ่งข้อมูลนี้ ตรงกับที่เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ได้พบเห็นขณะดูแลเด็กหญิงต่างชาติ เมื่อพ่อชาวต่างชาติได้มารับตัวที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว ได้พูดคำแรกว่า ได้ทำการบ้านรึยัง? แล้วเด็กหญิงตอบรับโดยการนำการบ้านในกระเป๋าขึ้นมาทำอย่างตั้งใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบและเข้มงวดของผู้เป็นพ่อ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจะคอยติดตามเยี่ยมเยียนพ่อลูกต่างชาติ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีความผิดปกติอีกต่อไป.