+อาชญากรรม

อุกอาจ! มือปืนควงลูกซองถล่มยิงรถพรุนทั้งคัน หนุ่มไทยออยล์โชคดี รอดชีวิตมาได้

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายธีรพันธ์ มุลมา อายุ 34 ปี พนักงานบริษัท ไทยออยล์ ว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง รถยนต์ยี้ห้อ โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กย 8731 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายยับเยิน เหตุเกิดที่บริเวณด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพัทยา ชั้นพิเศษ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.บางละมุงแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความวิตกกังวล เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ

นายธีรพันธ์ เปิดเผยว่าเรื่องราวบานปลายตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ตนเองมาติดตามหาแฟนสาวที่นั่งดื่มสังสรรค์อยู่กับกลุ่มเพื่อนภายในที่ทำการปะปาพัทยา ประมาณ 6-7 คน แต่เกิดมีปากเสียงกันขึ้น ตัวแฟนสาวก็ไม่ยอมกลับ ตนเองจึงแยกตัวกลับก่อน เนื่องจากมีการโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จนช่วงดึกตนเองได้โทรศัพท์มาหาแฟนสาว หวังง้อขอคืนดี ก่อนจะได้พูดคุยกับผู้ชาย ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จักและได้มีปากเสียงท้าทายกันเกิดขึ้น ฝ่ายคู่กรณียังยกพวกบุกมาถึงบ้าน ตนเองยอมรับว่าได้ใช้อาวุธมีดวิ่งไล่จึงแยกย้ายไป

จนกระทั่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุคือเวลาประมาณ 04.30 น.ตนเองได้ขับรถมาจอดฝั่งตรงข้ามกับที่ทำการประปาพัทยา หวังยืนรอแฟนสาวที่ยังไม่กลับบ้านอีกครั้ง ไม่นานก็มีรถยนต์มาจอด โดยมือปืนได้ชักปืนลูกซองยาว ขึ้นลำแล้วยิงใส่เข้ามาที่รถ ตนเองรีบวิ่งหนี หาที่กำบัง ไม่หนำใจกลุ่มมือปืนยังสะพายปืนเข้ามาจ่อยิงที่ตัวรถอย่างป่าเถือนอีกหลายนัด ก่อนแยกย้ายหลบหนีไป

ภายหลังเกิดเหตุก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนตัวรถนั้น ถูกกระสุนเจาะเป็นรูขนาดใหญ่ ประมาณ 3 นิ้ว ทั้งที่ประตูฝั่งคนขับและกระจก ตามประตูและตัวรถยังพบร่องรอยของกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนย้ายมาไว้ที่สภ.บางละมุง เพื่อตรวจสอบหาวิถีกระสุน

ด้าน พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง หลังทราบเรื่องไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมเก็บหลักฐานประกอบสำนวนคดี ส่วนปมเหตุนั้น คาดว่าเป็นเรื่องการเขม่นกัน แต่ยังคงไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาว และประเด็นอื่นออกไป เชื่อว่าไม่นานจะได้ตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.