covidchon

โควิด-19 ชลบุรี 2มี.ค.2565 ติดเชื้อใหม่ทำนิวไฮ ทะลุ3พันคน สูงวัยตายเพิ่ม2ราย บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้ออื้อ

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เวลา 06.30 น.สสจ.ชลบุรี รายงานว่าวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,134 ราย(ATK 1,910ราย)

1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 85 ราย สะสม 2,645 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 682 ราย

2. CLUSTER บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด อ.พานทอง 3 ราย สะสม 32 ราย

3. CLUSTER บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด อ.เมืองชลบุรี 3 ราย สะสม 21 ราย

4. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 26 ราย

5. บุคลากรทางการแพทย์ 26 ราย

6. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 10 ราย ดังนี้
6.1 กทม. 3 ราย
6.2 จังหวัดสมุทรปราการ 3 ราย
6.3 จังหวัดกำแพงเพชร 1 ราย
6.4 จังหวัดฉะเชิงเทรา 1 ราย
6.5 จังหวัดปราจีนบุรี 1 ราย
6.6 จังหวัดลพบุรี 1 ราย

7. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
7.1 ในครอบครัว 253 ราย
7.2 จากสถานที่ทำงาน 114 ราย
7.3 บุคคลใกล้ชิด 66 ราย
7.4 ร่วมวงสังสรรค์ 6 ราย

8. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 59 ราย

9. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 483 ราย

ณ วันที่ 2 มีนาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 807,544 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 547 คน (อัตราป่วย 67.74 ต่อแสนประชากร) ไม่มีรายงานเสียชีวิต, ใส่ท่อหายใจ 1 ราย (0.12 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 1 ราย (0.12 ต่อแสนประชากร)

มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,887,767 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 754 คน (อัตราป่วย 39.94 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 1 ราย (0.05 ต่อแสนประชากร) , ไม่มีรายงานผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ, ไม่มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบ

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 96,543 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 344,763 คน รวม 441,306 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 1,030 คน (อัตราป่วย 233.40 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 1 ราย (0.23 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 1 ราย (0.23 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 1 ราย (0.45 ต่อแสนประชากร)

วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อหายใจรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2565, รายที่สองไม่พบประวัติการรับวัคซีน), ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2564 , รายที่สองไม่พบประวัติการรับวัคซีน), และพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 82 ปี, รายที่สองอายุ 98 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564, รายที่สองไม่พบประวัติการรับวัคซีน)

ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น

ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี

ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน

ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม

ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ชิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้

ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น

1 ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK

2 เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงต่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว

3 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน

4 สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดกรองด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน

#ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน เข้าสู่โรคประจำถิ่น
#รู้หน้า_ไม่รู้ใจ_ไม่รู้ใครติดโควิดบ้าง
#อยู่ห่างกัน_หมั่นล้างมือ_แมสก์ต้องใส่_สแกนไทยชนะ