สาวเทศบาลฯ ร้องทนายดัง หลังถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตำรวจหลอกข่มขู่รีดเงิน
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย จังหวัดชลบุรี นำนายศักดิ์ดา โพธิอะ เจ้าหน้าที่ขับเครื่องจักรกล งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ และนางสาววรัญญา เฟื่องน้อย เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ สองสามีภรรยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.ธนัส ศรีประมาณ สว.สอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพ คอลเซ็นเตอร์ กรรโชกทรัพย์ โดยหลอกลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่
สำหรับพฤติกรรมของแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้ นายประทีประบุว่า ได้สวมรอยอ้างชื่อนายตำรวจ ยศ ร้อยตำรวจเอก และร้อยตำรวจตรี โทรศัพท์เข้ามาหานางสาว วรัญญา กับสามี โดยหลอกว่า มีเจ้าหน้าตำรวจจับกุมกล่องวัสดุที่ นางสาววรัญญา ส่งไปที่ประเทศจีน ชื่อผู้รับนายหยาง ต้า หมิง ที่อยู่ ถนนเหียแอ้น กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยสิ่งของที่ส่งไปประกอบด้วย หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) จำนวน 14 เล่ม บัตรกดเงิน เอทีเอ็ม จำนวน 10 ชุด เป็นหลักฐานสำหรับใช้ในการฟอกเงินซึ่งผิดกฎหมาย หากจะไม่ให้ออกหมายจับและดำเนินคดี ต้องจ่ายเงินประกันตัว 85,000 บาท และใช้อุบายหลอกลวงอีกว่า ในเบื้องต้นให้ส่งเงิน จำนวน 10,000 บาท มาก่อนเพื่อเป็นการตรวจสอบบัญชีธนาคาร แต่นางสาววรัญญา ต่อรองว่ามีเงินแค่ 7,000 บาท เพิ่งจะได้รับโบนัสปีใหม่จากที่ทำงานมาและจะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกเล็ก แต่แก๊งมิจฉาชีพได้บอกว่าให้โอนมาก่อน และเมื่อตรวจสอบบัญชีเสร็จแล้วจะโอนคืนให้ในช่วงเย็น พร้อมกับพูดจาข่มขู่จนเกิดความกลัว จึงได้โอนเงิน จำนวน 7,000 บาท ไปให้พวกมิจฉาชีพและสั่งห้ามไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด มิฉะนั้นจะส่งเรื่องดำเนินคดีติดคุกอย่างแน่นอน หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ เข้ามาเช็คกับนางสาว วรัญญา เป็นระยะๆ และขอให้เปิดกล้องวิดีโอคอลล์ เพื่อตรวจสอบว่ามีใครอยู่ด้วยหรือไม่
ต่อมานางสาว วรัญญา เกิดความสงสัยจึงได้ค้นหาในกลูเกิล และพบข่าวแก๊งมิจฉาชีพในลักษณะนี้ ถูกแจ้งความดำเนินคดีรู้สึกตกใจมาก เมื่อรู้ว่าตัวเองกับสามีตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว จึงได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจาก นายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายจังหวัดชลบุรี เพื่อนำความเข้าแจ้งร้องทุกข์กับ จนท.ตำรวจ สภ.สัตหีบ เพื่อประสานงานและดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ข่มขู่หลอกรีดเงินในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในขณะที่ นางสาววรัญญากำลังให้ข้อมูลกับนายประทีป กลุ่มมิจฉาชีพ ได้โทรศัพท์มาเร่งให้ นางสาว วรัญญา โอนเงินส่วนที่เหลือ จำนวน 78,000 บาท ให้ครบโดยเร็ว นางสาว วรัญญา จึงได้บันทึกเสียงสนทนาไว้เป็นเป็นหลักฐานส่งให้ จนท.ตำรวจ ติดตามกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อนำเงินคืน และดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพื่อมิให้บุคคลอื่นต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพนี้ต่อไป
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว จะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม สภ.ต่างๆ และจะโทรศัพท์สุ่มหาเหยื่อ อ้างว่าเหยื่อทำผิดกฎหมาย หากไม่โอนเงินให้จะดำเนินคดีตามกฏหมาย มีเหยื่อหลายรายหลงเชื่อ โดนหลอกเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก.