กำนันตำบลโป่งนำทีมชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือผู้กักตัวและผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 หลังถูกบางสื่อโจมตี
ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลโป่ง (17 สิงหาคม 2564) นายนิกร กรัดกราย กำนันตำบลโป่ง นายไพศาล แสงมาลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลโป่ง นายนิธิศ อินทร์ทิม รองนายกเทศมนตรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทาง รพ.สต.โป่ง และ เจ้าหน้าที่ อสม.ต.โป่ง ร่วมแถลงข่าวกรณีที่ รพ.สต.โป่ง และ เทศบาลตำบลโปง ถูกสื่อบางสำนักลงข่าวพาดพิงจนเกิดความเสียหาย โดยมีเนื้อหาพาดพิงเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.โป่ง กรณีการนำของไปช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ไม่หมดทุกหลังคาเรือน ซึ่งการเขียนข่าวในลักษณะดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียต่อองค์กรและทำให้คนทำงานหมดกำลังใจ ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงเปิดแถลงข่าวและชี้แจงแนวทางในการทำงานที่ผ่านมาของ รพ.สต.โป่ง
นายไพศาล แสงมาลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลโป่ง แจงว่า สำหรับขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.โป่ง เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง รพ.สต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต.โป่ง และเทศบาลตำบลโป่ง โดยข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับมานั้นจะมาจาก 3 แหล่งด้วยกันคือ 1.สาธารณสุขอำเภอบางละมุงในการรับการประสานในส่วนของผู้ป่วยสีเขียวที่จะต้องกักตัวที่บ้าน 2.จากโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยเข้าทำการรักษาและเข้าระบบการรักษาที่ CI และ 3จากชุดตรวจ ATK ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบการรักษาที่โรงพยาบาล โดยทาง รพ.สต.จะเข้าไปทำการสอบสวนโรค แนะนำผู้สัมผัสเสี่ยงสูง พร้อมดูแลในส่วนของผู้ป่วยสีเขียวที่รักษาอาการป่วยที่บ้าน ปัจจุบันพบว่ามีผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเกิดขึ้นในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ รพ.สต.โป่งก็เข้มแข็ง ได้เดินหน้าทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่อย่างหนักมาโดยตลอด ทั้งนี้ข่าวที่ลงไปพบว่าบิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ไม่ได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องจริง
ด้าน นายนิกร กรัดกราย กำนันตำบลโป่ง เผยว่าสำหรับถุงยังชีพที่นำไปมอบให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงนั้น เป็นการจัดหาโดยทีมกำนันผู้ใหญ่ตำบลโป่ง ส่วนใหญ่จะเป็นการขอรับความอนุเคราะห์จากบริษัท ห้างร้านใหญ่ๆในพื้นที่ตำบลโป่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนทั้งหมดจะนำไปมอบให้กับผู้ที่กักตัวและกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง หรือครอบครัวที่มีผู้ป่วยสีเขียว เพราะว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไม่สามารถออกไปด้านนอกไปเนื่องจากว่าเป็นบุคคลที่มีวามเสี่ยงและมีหนังสือกักตัว หากพบว่าฝ่าฝืนออกนอกบ้านจะมีความผิด ดังนั้นทาง รพ.สต.จึงต้องดูแลกลุ่มคนเหล่านี้จนครบระยะเวลา หรือจนหายป่วย ข้อมูลที่มีสื่อบางสำนักนำไปเขียนข่าวนั้นสร้างความเสื่อมเสียแก่คนทำงานเป็นอย่างมาก คณะทำงานจึงแถลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมเตรียมนำปัญหาดังกล่าวเสนอต่อผู้บังคับบัญชา หากในอนาคตเกิดเหตุการณ์คล้ายลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก จะมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายด้วย
ด้านนายนิธิศ อินทร์ทิม รองนายกเทศมนตรีตำบลโป่ง เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเทศบาลตำบลโป่งไม่เคยทอดทิ้งประชาชน มีการมอบถุงยังชีพให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบวิกฤตโควิด-19 มาโดยตลอด ล่าสุดสภาตำบลโป่งได้อนุมัติงบประมาณ 200,000 บาท ในการจัดซื้ออาหารแห้งเพื่อบรรจุเป็นถุงยังชีพมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลโป่งที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทุกครอบครัว ที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมอบถุงยังชีพแบ่งออกเป็นแต่ละหมู่บ้านเพื่อลดความแออัด และยังคงมีถุงยังชีพอีกจำนวนมากที่เหลืออยู่ที่เทศบาล ดังนั้นในกรณีที่พาดพิงมาถึงเทศบาลและบอกว่าการแจกถุงยังชีพไม่ครบทุกหลังคาเรือนนั้น น่าจะเกิดจากประชาชนไม่เดินทางมารับของเองมากกว่า
นายนิธิศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ล่าสุดทางเทศบาลเตรียมจัดซื้อชุดตรวจโควิดด้วยตนเองแบบ Antigen Test Kit (ATK) เพื่อคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่เองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงผู้สื่อข่าวสำนักดังกล่าวในการเขียนข้อมูลให้ขึ้นอยู่กับข้อมูลความเป็นจริง ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบหลายฝ่าย และกระทบต่อกำลังใจของคนทำงานด้วย ทุกฝ่ายต่างทำงานอย่างหนัก อยากจะให้เห็นใจกันด้วย.