+ชุมชนสิ่งแวดล้อม

นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออกนำทีมคัดค้านการถอนต้นไม้ริมหาดพัทยา ชี้กระทบต่อสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดิม ต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน ทำแบบนี้เหยียบหัวใจชาวพัทยา

หลังจากที่เมืองพัทยาได้ว่างจ้าง บ.นงนุชแลนด์แอนด์การ์เด้นดีไซน์ จำกัด ดำเนินการโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่โค้ง โรงแรมดุสิต พัทยาเหนือ ไปจนถึงปากทางวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ งบประมาณกว่า 166 ล้านบาทเศษ เข้ามาดำเนินการ ในช่วงระหว่างวันที่ 6 ส.ค.2564 ถึงวันที่ 3 พ.ค. 2566 รวมระยะเวลากว่า 820 วัน เพื่อปรับภาพลักษณ์ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยแผนการดำเนินการก่อสร้างในระยะแรกจะมีการถอนต้นหูกวางออกทั้งหมด ก่อนจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวแบบใหม่ โดยการใช้ต้นปาล์ม อินทผลัม และมะพร้าวมาปลูกเสริม เพื่อให้เกิดความสวยงาม รวมทั้งการปูพื้นผิวและปรับแนวฟุตปาธให้สามารถใช้ในการพักผ่อนและออกกำลังกายได้ ที่สำคัญจะมีการจัดสร้างห้องน้ำสาธารณะสำหรับประชาชน นักท่องเที่ยวและคนพิการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาพักผ่อน

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ขณะที่เจ้าหน้าที่ บ.นงนุชแลนด์แอนด์การ์เด้นดีไซน์ จำกัด ลงหน้างานเพื่อปฏิบัติตามแผนการก่อสร้างโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร โดยรื้อถอนต้นไม้เก่าออก ตามแนวถนนเลียบหาดพัทยานั้น นางจิดาภา ธนหัตถชัย หรือ ซ้อโอ่ง อดีตแกนนำคนเสื้อแดงพัทยา พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ รัตนโอภาส นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก และกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ได้มาที่ชายหาดพัทยาพร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยที่เมืองพัทยาจัดทำโครงการดังกล่าว เนื่องจากกระทบต่อสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดิมในอดีต

ด้านนายชัยรัตน์ รัตนโอภาส นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนพัทยา กล่าวว่า สิ่งที่เมืองพัทยาได้ดำเนินการโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ระยะทาง 2.7 กิโลเมตรนั้น วันนี้ภาคเอกชนส่วนหนึ่งได้ยื่นหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อให้เมืองพัทยาตอบข้อสงสัยกับประชาชนและภาคเอกชนในสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ด้วยต้นไม้ที่มีการรื้อถอนในครั้งนี้เป็นต้นไม้ที่เก่าแก่คู่เมืองพัทยามานานกว่า 50 ปีขึ้นไป มาวันนี้เมืองพัทยามาตัดต้นไม้ออกจากแนวชายหาดโดยที่คนพัทยาไม่ทราบสาเหตุ ภาคเอกชนและประชาชนไม่ปฏิเสธเรื่องของการพัฒนา และความเจริญที่จะมาในพัทยา การดำเนินการในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพัทยาก็เห็นด้วย แต่ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการรื้อถอนต้นหูกวาง ซึ่งเป็นต้นไม้เก่าแก่ออก และจะมีการขยายผิวถนนเป็นที่จอดรถให้กับนักท่องเที่ยวในอนาคตนั้น เมืองพัทยาต้องขยายเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอในสถานการณ์ปกติ ที่ผ่านมามองว่าไม่เพียงอยู่แล้ว อีกทั้งถนนสายชายหาดพัทยาเพิ่งมีการดำเนินการไปไม่นานและมาในวันนี้ก็จะมีการปรับปรุงแก้ไขอีก อยากให้เมืองพัทยานำงบประมาณดังกล่าวไปช่วยเหลือประชาชนเยียวยาในภาวะโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน

นายชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า อยากให้เมืองพัทยาชี้แจงการดำเนินโครงการดังกล่าวให้ประชาชนชาวพัทยาได้รับทราบ ที่ผ่านมาภาคเอกชนมีการเสนอแนวทางปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยา เกี่ยวกับการปรับต้นไม้ ให้นายกเมืองพัทยารับทราบแล้วและนายกเมืองพัทยารับปากภาคเอกชนแล้ว แต่รูปแบบของการดำเนินการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยายังคงเป็นต้นปาล์มดังเดิม

ต่อมา พ.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง สำนักปลัดเมืองพัทยา พร้อมคณะทำงานนายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจ โดยผู้ที่มาเรียกร้องขอให้ยุติการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดการพูดคุยและรับฟังเสียงของประชาชน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนยังคงทำงานตามปกติ นางจิดาภา เห็นว่าไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง จึงนำก้อนหินมาขว้างปารถแบ็คโฮ เพื่อให้หยุดทำงาน และขอให้นำอุxกรณ์เครื่องจักรทั้งหมดออกจากชายหาดโดยทันที

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเพื่อไม่เกิดปัญหาบานปลาย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจึงหยุดดำเนินการ พร้อมนำอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากชายหาดพัทยา หลังจากนี้จะได้มีการเสนอปัญหาดังกล่าวต่อคณะผู้บริหารเมืองพัทยาให้รับทราบ ประชุมร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดตามลำดับต่อไป
อธิบดี บุญชารี รายงาน
#ข่าวอธิปบูรพา
#ข่าวเมืองพัทยา
#ข่าวอำเภอบางละมุง
#ข่าวจังหวัดชลบุรี