อาชญากรรม

ตร.สัตหีบ จับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ อาศัยจำหน่ายช่วงโควิดระบาด

ที่ สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 7 ก.ค.64 เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ปิ่นรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.สุพรรณ ใจหาญ สว.สส.สภ.สัตหีบ ร.ต.อ.สุทิน บำรุงจิตต์ รอง สวป.สภ.สัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แถลงข่าวจับกุม นายนาวิน ตรีอุโภชน์ หรือเบียร์ อายุ 24 ปี พักอยู่บ้านใน ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด-เลื่อนเปิด น้ำหนักยาไอซ์ชั่งรวมถุงทั้งหมด 159.54 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุในซองพลาสติกใส แบบกดปิด-เลื่อนเปิด ทั้งหมดจำนวน 1,615 เม็ด ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ได้ที่บริเวณริมถนนปากซอยชายทะเล 5 ม.1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ขณะนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้า

จากการขยายผลเครือข่ายยาเสพติด ทราบว่ายาไอซ์ได้ซื้อมาจากนายเบียร์ (ผู้ต้องหา) โดยจะนำยาไอซ์มาส่งมอบที่บริเวณริมถนนปากซอยชายทะเล ต.สัตหีบ เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังซุ่มดูเหตุการณ์โดยรอบได้อย่างชัดเจน จากนั้นมีชายท่าทางมีพิรุธคล้ายคนติดยาเสพติด เดินมาบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวทำการตรวจค้นจับกุม พบยาไอซ์ สอบถามนายนาวินฯ รับว่ายาไอซ์และยาบ้าเป็นของตนและเสพยาเสพติดมาก่อนหน้านี้ ก่อนรับว่ามียาเสพติดอีกส่วนหนึ่งซุกซ่อนภายในบ้านเลขที่ 14/26 ม.6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงสมัครใจนำพา เจ้าพนักงานตำรวจเดินทางไปตรวจ ก่อนจะยาเสพติดและอุปกรณ์ ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ภายในห้องนอน ดังกล่าว

ด้านผู้ต้องหา ให้การว่าของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบเป็นของตนจริง โดยรับยาบ้าและยาไอซ์ มาจากน.ส.พร (นามสมมติ ) ซึ่งติดต่อซื้อขายกันทางเฟสบุ๊คของ น.ส.พร (นามสมมติ ) จากนั้นจะส่งหมายเลขบัญชีธนาคาร ชื่อเจ้าของบัญชี น.ส.นี (นามสมมติ ) เพื่อให้นายนาวิน โอนเงินชำระค่ายาเสพติดทุกครั้ง ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขออนุมัติหมายจับ เพื่อเข้าจับกุม น.ส.พร (นามสมมติ ) คนขายยาเสพติดให้แล้ว ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่อำเภอสัตหีบมียอดผู้ป่วยโควิด ขึ้นสูง เป็นจำนวนมากทำให้พ่อค้ายาเสพติดชะล่าใจ คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าออกมาจับในช่วงนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แอบติดตามเส้นทางยาเสพติดในพื้นที่ตลอดเวลา จนสามารถจับกุมได้ในที่สุด