วันอังคาร, มีนาคม 4, 2025
Latest:

8 องค์กรภาคท่องเที่ยวและบริการพัทยา เสนอเร่งจัดตั้ง กก.ชุดพิเศษจัดทำพื้นที่ Seal Route พัทยา-สัตหีบ ตั้งเป้า เปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยว 1 ส.ค.

นายชัยรัตน์ รัตโนภาส ประธานชมรมเวลเนส แอนด์สปาเมืองพัทยา เปิดเผยว่าปัจจุบันตัวแทนจาก 8 องค์กรภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการของเมืองพัทยา เดินทางเข้าพบ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่ได้ประกาศผ่อนปรนมาตรการควบคุมในพื้นที่หลายส่วน พร้อมกันนี้ได้ยื่นหนังสือแจ้งความคืบหน้าถึงโครงการ Pattaya Move on ที่เมืองพัทยา ร่วมกับ ททท. และภาคธุรกิจได้หารือเสนอแผนในการจัดทำเพื่อหวังจะเปิดเมืองท่องเที่ยวให้ได้ภายในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ในลักษณะของ Seal Route หรือการกำหนดกลุ่มนักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว และเส้นทางพื้นที่การท่องเที่ยวเฉพาะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านการแพร่กระจายของโรค และถือเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของพัทยา ที่พบว่าต้องประสบกับปัญหามานานกว่า 2 ปี จนกิจการธุรกิจด้านบริการในหลายประเภทต้องปิดชั่วคราวและถาวรไปแล้วกว่า 80% สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก

สำหรับพื้นที่เมืองพัทยามีความแตกต่างจากพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่าง ภูเก็ต สมุย ที่มีลักษณะเป็นเกาะจนสามารถจัดทำการป้องกันแบบ Sand Box ได้ จึงเสนอแนวจัดทำแบบ Seal Route ที่จะมีการระบุกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องได้รับวัคซีนครบ สถานที่เข้าพัก เส้นทางการทำกิจกรรม โดยจะเน้นใน 2 อำเภอหลักคือ บางละมุงกับสัตหีบ อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมต้องผ่านมาตรฐาน SHA + หรือมาตรฐานข้อกำหนดพื้นที่ในการรองรับการให้บริการที่ปลอดภัย และต้องมีมาตรฐานด้านการบริการหรือ SOP ตามที่รัฐกำหนดด้วย และด้วยความที่กำหนดไว้ใน 2 อำเภอหลัก จึงเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อกำหนดมาตรการและสิ่งที่ควรดำเนินการในการจัดทำ Seal Route ใน 2 อำเภอหลัก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธาน กก.ควบคุมโรคติดต่อเป็นประธาน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับ 70% ของทั้งในส่วนประชากร แรงงาน และภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว คาดว่าจะใช้ประมาณ 9 แสนโดสหรือประมาณ 4.5 แสนคน โดยทั้งหมดนี้ได้เสนอผ่านไปทาง ศบค.จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าสู่ ศบค.ใหญ่ เพื่อพิจารณาต่อไป และในเร็ววันนี้จะมีการเข้าพบ รมว.ท่องเที่ยวฯ เพื่อหารืออีกครั้ง ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศจะเปิดประเทศภายใน 120 วันด้วย

นายชัยรัตน์ กล่าวต่อไปว่าตามเป้าหมายที่ได้วางไว้คือ น่าจะมีการเปิดเดินระบบของโครงการ Pattaya Move on หรือ Seal Route ให้ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเป็นการทดสอบระบบและป้องกันปัญหาที่อาจเกิด ขึ้นซ้ำๆ เพราะหากไปดำเนินการในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือในช่วงตุลาคม อาจไม่ทันต่อการรองรับได้ทันและหากมีปัญหา ความเสียหายอาจจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นโครงการนี้ถือว่ามีความสำคัญและต้องร่วมกันผลักดันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยหากสถานการณ์ยังคงไม่มีความชัดเจนและดำเนินการไม่ทันในฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2564 นี้ คาดว่าเมืองพัทยาจะต้องประสบกับปัญหาสาหัส เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่คงจะแบกรับภาระต่อไปไม่ไหว หากเกิดขึ้นจริงคงจะต้องมีการปิดกิจการเพิ่ม เกิดการเทขายธุรกิจ จะมีนายทุนจากต่างชาติเข้ามาทุบราคา กว้านซื้อในราคาถูก ปัญหา NPL จะเกิดผลกระทบไปทั่วเป็นลูกโซ่ จึงต้องมีการเร่งผลักดันให้โครงการเดินหน้าได้อย่างเป็นรูปธรรม.