วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
อาชญากรรม

“บิ๊กเจ้า” สั่งลุยจับแก๊งจีนเปิดแอพฯปล่อยเงินกู้ดอกโหด พบนายทุนส่งเงินข้ามประเทศให้ครึ่งแสนฟันกำไรนับสิบล้านต่อเดือน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 เม.ย.2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช. รรท.ผบก. ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา ที่ ค.59/2564 ลงวันที่ 29 เม.ย.2564 เข้าตรวจค้น อาคารพรีวิลเลจสวีท เลขที่ 231/19 ถ.พัทยาสาย 2 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบสวนทราบว่าอาคารแห่งนี้ลักลอบเปิดเป็นที่ทำการปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอพพลิเคชั่น และมีการติดตามทวงเงินจากผู้กู้ รวมถึงญาติและเพื่อนร่วมงานของลูกค้า เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน

ผลการเข้าตรวจค้นพบ นายหวัง เป่ย (Wang Pei ) สัญชาติจีน อายุ 33 ปี แสดงตนเป็นผู้ดูแล จึงได้แสดงหมายค้นดังกล่าวและจากการตรวจค้นที่ชั้น 2 ของอาคาร พบพนักงานคนไทยทั้งชายและหญิงรวม 39 คน กำลังนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ จากการสอบถามพนักงานคนไทยให้การตรง กันว่าเป็นลูกจ้าง โดยมีนายหวังเป็นหัวหน้า ซึ่งรับจ้างทำหน้าที่ต่างกัน

ต่อมา พ.ต.อ.เอกภพ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พนักงานของบริษัทฯนี้โทรติดต่อสอบถามลูกค้าตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้รับมาในแต่ละวันจากที่ต่างๆ กว่า 100 รายว่าสนใจกู้ยืมเงินหรือไม่ หากสนใจก็จะขอแอดไลน์ลูกค้าและส่งลิงค์แอพพลิเคชั่น “360 ยืมเงิน ” และแอพ “ยืมเถอะ” ไปให้ จากนั้นจะให้ลูกค้ากรอกประวัติ เบอร์โทร ไลน์ เฟสบุ๊ค เลขบัญชี และอื่นๆ พร้อมจัดส่งข้อความเอกสารที่ลูกค้าต้องใช้ในการกู้ยืมไปให้ โดยแอพฯดังกล่าวจะสามารถล้วงข้อมูลจากโทรศัพท์ของลูกค้าได้ทุกประเภท เมื่อเห็นสมควรก็จะปล่อยเงินกู้ให้ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 5.7225ต่อวัน หรือ 2,090 %ต่อปี ซึ่งจะทำการหักเงินทันทีในวันที่ปล่อยกู้ จนเมื่อครบเวลา 7 วันจะมีพนักงานโทรไปทวงเงินจากลูกค้า โดยหากติดต่อลูกค้าโดยตรงไม่ได้ก็จะโทรไปทวงถามยังหมายเลขของนายจ้าง เพื่อนพนักงาน ญาติสนิท และคนใกล้ชิดที่ทางแอพฯ ดึงข้อมูลจากโทรศัพท์มืิถือของลูกค้าไว้ จนลูกค้าได้รับความเดือดร้อนและต้องยอมชำระเงินต้นทั้งหมดในที่สุด โดยพบว่าแต่ละวันจะมีลูกค้ากว่า 500 ราย ในวงเงินกู้เฉลี่ยรายละ 2,000-10,000 บาท โดยคนปล่อยกู้จะโอนเงินโดยตรงมาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเครือข่ายหลัก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะขยายผลต่อไปและดูว่าเชื่อมโยงกับขบวนการปล่อยเงินกู้ผ่านแอพพลิเคชั่นที่เพิ่งถูกจับกุมไปเมื่อเร็วๆนี้หรือไม่ ส่วนตัวนายหวัง จากการตรวจสอบพบว่าเดินทางเข้ามาในประเทศด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ส่วนพนักงานนั้น นายหวัง จะประกาศจ้างโดยให้เงินเดือนเริ่มต้น 10,000 บาท และเมื่อผ่านการทดลองงานเดือนแรกก็จะได้รับเงินเดือน 12,000 บาท พร้อมเบี้ยขยันอีก 2,000 บาท

ทั้งนี้ นายหวัง ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวจีนชื่อ นายเฉิน ไม่ทราบชื่อนามสกุล เดือนละ 10,000 หยวน ให้เป็นผู้ดำเนินการหาเช่าสถานที่ และจัดซื้ออุปกรณ์การทำงานให้กับพนักงาน โดยนายเฉินจะเป็นคนโอนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ ในแต่ละวันและแต่ละแอพฯ จะมีลูกค้าสนใจสมัครเข้าขอกู้ยืมเงินวันละประมาณ 500 ราย มูลค่าวงเงินที่ปล่อยกู้ในแต่ละวันประมาณ 2-3 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันประกอบธุรกิจทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน รวมทั้งร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือ กระทำการดังกล่าวอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดชลบุรีที่ 19/2564 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเหตุให้โรคแพร่ออกไป พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดของกลางเป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 39 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อธิบดี บุญชารี รายงาน