ชาวบ้านข้องใจบุหรี่ไฟฟ้า “อันตราย” ต่อสุขภาพ ทำไมปล่อยให้ขายเกลื่อนบางละมุง-พัทยา
จากกรณีพลเมืองดีร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ปัจจุบันพบมีการนำ “บุหรี่ไฟฟ้า” มาจำหน่ายให้กับเยาวชนในพื้นที่อำเภอบางละมุงและเมืองพัทยา กันอย่างแพร่หลาย ทั้งที่ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ซึ่งจะต้องรับโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นเงิน 5 เท่า ของสินค้าหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงให้ริบสินค้า และพาหนะที่ใช้ในการบรรทุกสินค้านั้นด้วย รวมถึงมีรายงานทางวิชาการที่ยืนยันชัดเจนว่า “บุหรี่ไฟฟ้า” และสารที่นำมาใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก
นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสินค้าที่ห้ามขาย หรือให้บริการ ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ซึ่งกำหนดโทษสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทั่วไป ให้จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ที่กระทำผิด เป็นผู้ประกอบธุรกิจในฐานะผู้ผลิต ผู้สั่ง หรือผู้ที่นำเข้ามาเพื่อขายต้องรับโทษเพิ่มสูงขึ้น เป็นจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ปัจจุบัน กลับยังมีผู้ที่ฝ่าฝืนลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามสถานบันเทิง/แหล่งบันเทิงยามราตรี
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ในเขตพื้นที่อำเภอบางละมุง-เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ทำไมเจ้าหน้าที่ฯ ถึงละเลยปล่อยให้เปิดขายกันได้อย่างโจ๋งครึ่ม และฝากให้ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 (รองผบช.ภ.1) รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และนายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโช นายอำเภอบางละมุงท่านใหม่ ช่วยตอบให้ชาวบ้านหายข้องใจด้วย
อธิบดี บุญชารี รายงาน.