+การเมือง

เปิดกรอบแนวคิด “วินัย อินทร์พิทักษ์” หัวหน้ากลุ่มพลังหนองปรือ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ

“วินัย อินทร์พิทักษ์” หัวหน้ากลุ่มพลังหนองปรือ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ เปิดกรอบแนวคิดพัฒนาเมืองหนองปรือ สู่เมืองแห่งการอยู่ร่วมกันแห่ง EEC ชี้ดึงบุคคลากรคนรุ่นใหม่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมทำงานยกระดับท้องถิ่น หวังประชาชนได้รับความสะดวกแบบเข้าถึงมากขึ้น

ตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องในส่วนของเทศบาลได้หมดวาระการบริหารไป เข้าสู่การเตรียมการลงรับสมัครเลือกตั้งนายกเทศบาลและสมาชิกเทศบาลชุดวาระบริหารใหม่ในทั่วประเทศ ท้องถิ่นต่างๆ เริ่มมีสีสันเรื่องการกิจกรรมทางการเมืองอีกครั้ง หลังผ่านการเลือกตั้งในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดไปเมื่อไม่นานมานี้ เทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ถือได้ว่าเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการพัฒนาขยายอำนาจการบริหารงานท้องถิ่นรองรับการเติบของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างพัทยาได้อย่างน่าสนใจ สีสันการเมืองท้องถิ่นเริ่มที่จะขยับขึ้นเมื่อใกล้เข้าสู่วันรับสมัครเลือกตั้งเทศบาลในวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งเทศบาลในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 นั้น

นายวินัย อินทร์พิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มพลังหนองปรือ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเริ่มเข้าการเมืองท้องถิ่นมาในปี 2538 ตั้งแต่สมัยเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ ยกระดับมาจนถึงเทศบาลเมืองหนองปรือ ในระยะเวลากว่า 20 ปี ได้ลงพื้นที่ดูปัญหาให้ประชาชนมาอย่างเสนอตั้นเสมอปลาย ก่อนมีโอกาทำงานเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีหนึ่งสมัย พร้อมวาระรักษาการณ์ ได้ประสบการณ์ตรงจุดนี้ถึง 6 ปี ด้วยความเป็นคนพื้นที่พื้นเพเป็นคนหนองปรือ ทำให้รู้ถึงบริบทของพื้นที่ สภาพแวดล้อม และเห็นการเติบโตของเมืองหนองปรือมาโดยตลอด จึงต้องการจะเห็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองหนองปรือได้รับการพัฒนาอย่างถูกทิศทาง

ทั้งนี้ ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเองทั้งหมด จึงได้มีความคิดในการที่จะดึงคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถเฉพาะด้านมาช่วยบริหารงาน โดยตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีที่วางไว้ คนแรกคือ นายวันชัย แสนงาม ผู้คนพื้นที่ที่เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกเทศบาล รวมทั้งยังเป็นประธาน อสม.อ.บางละมุง และ รองประธาน อสม.จ.ชลบุรี จึงมีความรู้ความสามารถเกี่ยวด้านสาธารณสุขของชุมชน มีการลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอด จึงหวังจะให้เข้ามาช่วยทำงานในส่วนของการบริหารกองสาธารณสุขและสัวสดิการสังคม เพื่อช่วยเหลือด้านการสาธารณสุขให้กับประชาชนทั่วไป ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ยากไร้ในพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าที่ผ่านมา รองนายกเทศมนตรีคนที่สอง คือ นายสมโชค ยินดีสุข ซึ่งอดีตเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาในพื้นที่มาแล้วหลายแห่ง ทำงานด้านการศึกษาจนมีผลงานชัดเจนเป็นที่ประจักษ์มาแล้วมมากมาย จะให้มาช่วยดูลในส่วนของเรื่องการศึกษา ซึ่งมั่นใจว่าจะทำงานด้านนี้ได้อย่างดี ส่วนรองนายกเทศมนตรีคนที่ 3 นั้น ยังไม่ขอเปิดเผย แต่วางไว้ว่าให้มาช่วยดูในเรื่องของกฎหมายและระเบียบท้องถิ่น

ในส่วนของผู้สมัครสมาชิกเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เขตนั้น ทางกลุ่มพลังหนองปรือ ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมบริบทความร่วมมือร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบ้านเมืองโดยมีประชาชนเป็นส่วนร่วม ในทุกเชื้อชาติศาสนาที่อาศัยอยู่กินในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองปรือโดยไม่มีการแบ่งแยก โดยพื้นที่เขต 1 และเขต 2 นั้น ถือเป็นเขตที่มีประชากรอาศัยอยู่ร่วมกันทั้งไทยพุทธและมุสลิม ผู้รับสมัครเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลจึงเป็นการผสมผสานระหว่างชายไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมที่เป็นคนพื้นที่ของเขตนั้น ๆ เพื่อสามารถกระจายการทำงานช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเข้าถึงลงลึกในปัญหาและหาทางแก้ที่ถูกต้องชัดเจนและยั่งยืน รวมทั้งสิ้นเขตละ 6 คน แบ่งเป็นมุสลิม 2 และไทยพุทธ 4 คน โดยพื้นที่เขต 1 จะครอบคลุมพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่11 หมู่12 และหมู่ 6 บางส่วน ส่วนเขต 2 ครอบคลุมพื้นที่หมู่ 7 หมู่ 13 หมู่ 6 บางส่วน และหมู่ 5 บางส่วน ส่วนในเขต 3 จะครอบคลุมพื้นที่หมู่ 8 หมู่ 9 หมู่ 10 หมู่ 14 และหมู่ 5 บางส่วน

นายวินัย อินทร์พิทักษ์ หัวหน้ากลุ่มพลังหนองปรือ ให้ข้อมูลด้วยว่า ประชากรในเขตเทศบาลเมืองหนองปรือมีประมาณ 60,000 คน ส่วนตัวจะให้ความสำคัญในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้น มองว่าที่ผ่านมาปัญหาที่ฉุดรั้งการพัฒนาเมืองหนองปรือคือเรื่องของระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ท่ีมีการดำเนินการอย่างล่าช้าจนส่งผลกระทบสร้างปัญหาให้ประชาชน เนื่องมาจากหลายโครงการได้ผู้ดำเนินโครงการรายเดียวกันทำให้การทำงานแต่ละโครงการต้องรอการดำเนินการ ทำให้ศักยภาพการพัฒนาในเรื่องนี้เป็นไปอย่างไม่เต็มที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งควรเปิดโอกาสให้กับผู้ดำเนินการรายอื่นๆ ที่มีศักยภาพและประสบการณ์มาช่วยดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดความผูกขาดในเรื่องนี้ด้วย การทำงานต้องดึงประชาชนมามีส่วนร่วมในทุกเรื่องความคิดเห็นจากประชาชชนทั้ง 45 ชุมชนของเทศบาลหนองปรือคือสิ่งสำคัญในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและท้องถิ่น จะมีการร่วมวางแผนพัฒนากับภาคประชาชนแบบปีต่อปี อนาคตมองด้วยว่าจะเพิ่มคุณภาพด้านการบริการงานกับประชาชนที่มาติดต่อราชการ โดยมีความคิดจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและผู้มาติดต่อราชการกับทางเทศบาลให้มีช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมหาแนวทางดำเนินการในเรื่องของศูนย์บริการบัตรประชาชนและทะเบียนแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียวเพื่อประหยัดเวลาของชาวบ้านด้วย

ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาเมืองหนองปรือในสอดคล้องกับนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC นั้น มองว่าการเติบโตของ EEC จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหนองปรือได้อีกมาก ตรงนี้จะให้ความสำคัญเรื่องของการส่งเสริมการสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้ประชาชนจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะเติบโตตามไปในอนาคตที่จะทำให้ท้องถิ่นจะมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวมากขึ้นไปด้วย ซึ่งต้องมีการบริหารจัดเรื่องนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียโอกาส รวมทั้งหาแนวทางส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นแลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มจุดขายให้กับสถานประกอบการของตนเองควบคู่กันไปด้วย แต่สิ่งสำคัญที่ทางกลุ่มพลังหนองปรือได้มุ่งเน้นคือการแสวงหาความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกัน โดยจะให้ความสำคัญกับประชาชนในทุกระดับ ทุกเชื้อชาติและศาสนา ต้องมีการลงพื้นที่เรียนรู้และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมวัฒนธรรมและสร้างความเข้าใจในขนบธรรมเนียมของแต่ละชุมชนและแต่ละศาสนา เพื่อความเข้าถึงในการร่วมแก้ปัญหา โดยมีประชาชนในท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นที่ตั้ง เพื่อสร้างสังคมคุณภาพท่ีมีแต่การหยิบยื่นมิตรภาพที่ดีให้กันต่อไปด้วย.