วันพฤหัสบดี, มีนาคม 13, 2025

นอภ.บางละมุง มอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการให้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ย้ำต่อต้านทุจริต ทำหน้าที่ด้วยความโปร่งใส

ที่ห้องประชุมศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอบางละมุง นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอบางละมุง เพื่อมอบนโยบายให้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสนี้ นายอำเภอบางละมุง ได้แนะนำตัวอย่างอย่างเป็นทางการพร้อมทีมงาน โดยกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาบริหารอำเภอบางละมุง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอำเภอที่เจริญเป็นอันดับ 1 จากทั้งหมด 787 อำเภอทั่วประเทศ จึงพร้อมที่จะปรับทีมงานในการทำงาน และเป็นคนกลางเพื่อพัฒนาอำเภอบางละมุงและทำให้ดีที่สุด ให้ทุกคนเกิดความภาคภูมิใจกับความเป็นบางละมุง

ส่วนประเด็นในที่ประชุมได้มอบนโยบายต่อต้านการให้หรือรับสินบน เนื่องจากอำเภอบางละมุงได้เข้าร่วมการขับเคลื่อนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ อำเภอบางละมุงได้ดำเนินการประกาศนโยบายต่อต้านการให้หรือรับสินบน โดยมีใจความสำคัญดังนี้

ไม่ถามนำ หรือไม่รับสินบน หรือของขวัญจากการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รู้เห็นเป็นใจให้บุคคลในครอบครัวให้ หรือ รับสินบน การปฏิบัติหน้าที่ต้องยึดถือประโยชน์และภาพลักษณ์ของทางราชการเป็นสำคัญ ต้องไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์ของทางราชการ เช่น การนำทรัพยากรของราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน การนำข้อมูลภายในไปเปิดเผย การเบียดบังเวลาราชการเพื่อทำงานพิเศษ เป็นต้น

ลดการให้ หรือการรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด ไม่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมการให้หรือรับสินบน และการให้หรือรับของขวัญจากการปฏิบัติหน้าที่ หากพบการกระทำที่ฝ่าฝืนให้รายงานนายอำเภอทราบโดยเร็ว

พร้อมกันนี้ นายอำเภอบางละมุงได้เน้นย้ำในเรื่องการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวนบางละมุงทั้ง 4 ตำบล ประกอบด้วย โป่ง เขาไม้แก้ว ตะเคียนเตี้ย และห้วยใหญ่ ให้เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังไฟป่า เตรียมบุคลากร อุปกรณ์ดับเพลิง ต่างๆ ให้พร้อม ส่วนบริเวณที่เป็นบ่อขยะให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจตรา ดูแล และเข้มงวดตามแคมป์พักคนงานอย่าให้มีการจุดไฟเผาขยะ คาดว่าอีกเพียง 86 วัน ทั้งประเทศก็จะพ้นจากวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ได้ในระดับหนึ่ง