ผบ.มทบ.19 วางพวงมาลารำลึกวีรชนทหารกล้า เนื่องในวันทหารผ่านศึก

            ที่ อนุสาวรีย์วีรชนทหารกล้า นิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกคลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วเมื่อเวลา 11.00 น.วันทื่ 3 ก.พ.2563 พลตรีหทัยเทพ กีรติอังกูล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 พร้อมด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจและสมาชิกทหารผ่านศึก ร่วมพิธีวางพวงมาลาพร้อมทั้งประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อคาราวะและรำลึกถึงดวงวิญาณและวีระชนผู้กล้าที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อชาติ

             วันทหารผ่านศึก ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่ประชาชนชาวไทยจะได้แสดงความระลึกถึงและเชิดชูเกียรติ วีรกรรมอันกล้าหาญของเหล่าทหารผู้เสียชีวิตและพิการจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึกและทหารนอกประจำการ จึงได้จัดกิจกรรมต่างๆขึ้นเพื่อแสดงความระลึกถึงและเชิดชูเกียรติแก่ทหารผ่านศึก

            พลตรีหทัยเทพ กีรติอังกูล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 กล่าวว่า งานวันทหารผ่านศึก ในวันที่ 3 ก.พ.2563 จัดภายใต้ชื่องาน “ทหารผ่านศึก น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นการระลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารผ่านศึก ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกปักรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ รวมทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย ที่ทหารได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นวีรกรรมที่ควรยกย่องสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง ได้ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่เหล่าทหารผ่านศึกผู้ล่วงลับ , พิธีจุดตะเกียงตามประทีปดวงวิญญาณและสักการะอัฐิ ณ ห้องจารึกชื่อผู้เสียสละชีพเพื่อชาติ ภายในอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พิธีวางพวงมาลา พิธีเชิดชูเกียรติและจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่ทหารผ่านศึกและครอบครัว สำหรับพิธีสวนสนามเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกของกำลังพล 3 เหล่าทัพ ตำรวจตระเวนชายแดน และอาสารักษาดินแดน รวมถึงขบวนกองเกียรติยศ ของเหล่าทหารผ่านศึกอีกด้วย       

            พ.ต.วิสิทธิ์ เสนารัก ที่ปรึกษาทหารผ่านศึกจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงพิธีในครั้งนี้ว่ามีการวางพวงมาลา เพื่อเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกและทำบุญอุทิศส่วนกุศลระลึกถึงคุณงามความดีที่เหล่าทหารผู้กล้า ผู้ซึ่งประกอบวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ด้วยความเสียสละเลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยและเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารผ่านศึกประจำการที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งนอกจากประกอบพิธีวางพวงมาลา และพิธีทางศาสนาแล้ว ของทหารประจำการเพื่อเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกอีกด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาไทยได้ผ่านสงคราม มากมายหลายครั้ง นับตั้งแต่กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส สงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี เวียดนาม และการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์  ทำให้มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดประจำการ จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบ ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่  3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 จึงได้ถือเอาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก

            สำหรับประเทศไทยได้จัดทำดอกป๊อปปี้ จำหน่ายในวันทหารผ่านศึก เพื่อต้องการหาทุนมาช่วยเหลือทหารและครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ จึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามในครั้งนั้น ทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวง ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่ทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติดังกล่าว