รอง ผบช.ภาค 2 แถลงผลกวดขันจับกุมกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รวมแก๊งแว๊นป่วนเมือง ตรวจยึด จยย.43 คัน

จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชอบจับกลุ่มเช่ารถ จยย.แล้วพากันแว๊นป่วนเมือง สร้างปัญหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 ส.ค.2565 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.พิชญะ เขียวเปลื้อง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ร่วมแถลงผลข่าวการจับกุมกวาดล้างกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวต่างชาติที่จับกลุ่มซิ่ง จยย. ป่วนเมือง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา โดยก่อนหน้านี้สามารถจับกุมบังคับใช้กฎหมายได้จำนวนมาก ซึ่งผู้กระทำผิดส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นต่างชาติ โดยแยกฐานความผิดเป็น 1.ไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวน 150 ราย 2.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จำนวน 820 ราย 3.ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร จำนวน 18 ราย และ 4.ย้อนศร จำนวน 5 ราย

ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาทุกปีๆ ในช่วงเดือน มิ.ย.ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีฐานะและชอบเช่ารถจักรยานยนต์ ก่อนพากันจับกลุ่มขี่รถสัญจรไปตามท้องถนนด้วยความหวาดเสียวและส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ปรากฏภาพในลักษณะที่สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะพบวัยรุ่นกลุ่มนี้รวมตัวกันบริเวณย่านซอยเย็นสบายและถนนพัทยาใต้ โดยจะมีร้านให้เช่ารถ จยย.ที่นิยมปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

ทั้งนี้ สภ.เมืองพัทยา ได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่และเพิ่มความถี่ในการออกตรวจจุดที่นักท่องเที่ยวมักรวมกลุ่ม ทั้งการตั้งด่านตรวจสกัด พร้อมการให้เจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์ผู้ปล่อยรถเช่า แนะนำให้ปล่อยเช่าเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีใบอนุญาตขับขี่สากลเท่านั้น และให้แจ้งทุกรายที่เช่า จยย. ไม่ให้ไปรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งห้ามเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์จนเกิดเสียงดังรบกวนประชาชน

ล่าสุดผลการกวดขันจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมา สามารถติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ 16 ราย จึงทำการเปรียบเทียบปรับ พ.ร.บ.จราจรฯ และตรวจยึดรถ จยย.อีก 43 คัน มาตรวจสอบ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป และจะเรียกผู้ปล่อยรถให้เช่ามาดำเนินการตามกฏหมายในข้อกล่าวหายินยอมให้ผู้ไม่มีใบขับขี่ใช้รถโดยผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่าสิ่งสำคัญคือมาตรการป้องกัน ได้แก่ การสืบสวนหาข่าว โดยเฉพาะคนทำงานกลางคืน เพื่อรวบรวมข้อมูลแหล่งรวมตัว ร้านขายอะไหล่ อุปกรณ์แต่งรถ พร้อมการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ตั้งด่านกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด โดยเฉพาะผู้แต่งรถซิ่ง รวมไปถึงรถต้องสงสัยที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหรือป้ายปลอม สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสในทุกกรณี.