ชิงดำ “คืนหมาหอน” “กระสุนนัดสุดท้าย” พลิกแนวรบตะวันออก
โซ้ยกันมันหยดติ๋ง!จนวินาทีสุดท้าย!!
ใครจะอยู่ หรือ “ล่องจุ๊น!”ลุ้นกันเอา…
โฟกัส สนามชนช้าง ศึกเลือกตั้ง “นายกเมืองพัทยา”และสมาชิกสภาเมืองพัทยา หลังโรมรันพันตูหาเสียงกันมาแรมเดือนต่างฝ่ายต่างงัด“กลเม็ด”ชั้นเชิงสุดแยบคายร้ายเหลือเหนือชั้น ออกมาห้ำหั่นกันอย่าง “ถึงพริกถึงขิง” เพื่อหวัง “ชิงดำ” แตะเส้นชัย เข้าป้ายด้วยกันทุกคน!!
แต่…หมากเกมนี้ จะลงเอยเหลือเพียง “ผู้ชนะสิบทิศ”หนึ่งเดียว เท่านั้น!
ใครจะลุยหักด่านหิน บินข้ามทะเลน้ำกรด บดทะลวงปราการเหล็กกล้า ผ่านเข้าไปคว้า “คทาเกียรติยศ” มาครอบครอง…
ไม่ใช่ของง่าย…แต่ก็ได้ ไม่ยาก?!?
“เบียร์” ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ เบอร์1 นักการเมืองหนุ่มไฟแรงที่ได้ “แบคอัพ”อย่างหนาตราช้าง อย่าง “บิ๊กแป๊ะ”สนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา มาเป็น“เรือธง” บัญชาการรบพุ่งในยุทธภูมิครั้งนี้อีกทั้งยังได้รับแรงอัดจากเชื้อปะทุเกรดพรีเมี่ยม “กลุ่มเรารักษ์พัทยา”จุดชนวนเป็นแรงส่งพุ่งสู่เป้าหมายแบบว่าพกความมั่นอกมั่นใจกันมาเกินร้อย
“ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ” อดีตนายอำเภอบางละมุง เจ้าของรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 2 ถึงแม้ว่าจะลงชิงบัลลังก์เจ้าสำนักตึกแดง สไตล์ “เดี่ยวกระบี่มือหนึ่ง” ก็ตาม แต่ข้ามาคนเดียว กลับสร้างความเสียวสะท้านต่อเหล่าจอมยุทธ สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วฟ้ายุทธภพ ประกาศจะไม่ยอมออมมือให้ผู้ใดเด็ดขาด เพื่อผดุงบ้านเมือง และลบล้างคำสบประมาทว่าเป็น “นอมินี” กู้ศักดิ์ศรีคำค่อนขอดว่าเป็น “ไม้ประดับ”ในคลับเฮ้าส์การเมือง… ไม่ให้เป็นที่ครหาได้อีกต่อไป…
“บ๊อบ”กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย เบอร์3 สังกัดกลุ่มคณะก้าวหน้า ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นหัวขบวน ดันหลังส่งขึ้นเวทีประกวด แบบเปิดหน้าท้าชน ประกาศลั่น “หักดิบ” กลุ่มอำนาจเก่า “ทวงคืนพัทยา”ให้กับประชาชน…ซึ่ง คอการเมือง ฟังแล้วคุ้นหูกันดีกับสโลแกนแนวนี้!
ลำดับสุดท้าย หมายเลข 4 “สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร” นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ผู้ประกาศตัวตนชัดเจนว่าเป็นคนรุ่นใหม่ กล้าที่จะพลิกโฉมเมืองพัทยา ได้รับแรงหนุนจาก “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” ที่มี “นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร”พี่ชายร่วมสายโลหิต ผู้มีโปรไฟล์เป็นถึงอดีตนายกเมืองพัทยา เข้ามาเป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” อันมีถิ่นเกิดพื้นที่นาเกลือ เป็นฐานที่มั่นคะแนนเสียงสำคัญ ปลุกกระแสบ้านเกิดเมืองนอน คนบ้านเราพัฒนาบ้านเรา สกัดเส้นทาง “ข้าวนอกนา ปลานอกน้ำ” ด้วยสโลแกน “คนพัทยา เพื่อเมืองพัทยา” ขอคะแนนเสียงแบบโดนๆ
ทั้งหลายทั้งปวง คือโปรไฟล์ผู้ลงสังเวียนชิงชัย ตำแหน่งนายกเมืองพัทยา 4หนุ่ม 4 มุม คาแรคเตอร์แตกต่างกันไป…
รักใคร เชียร์ใคร อยากได้ “นายกฯในดวงใจ” แบบไหน?ตัดสินใจให้ดี!
“ดาบอาญาสิทธิ์”กำอยู่ในมือของท่านแล้ว วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 ออกไปแสดงแสนยานุภาพ ให้มืดฟ้ามัวดิน!!
อย่างว่าแหละครับการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นนัดจุดพลุ “แมตช์แรก”ในรอบหลายปีที่ผ่านมานับแต่ประชาธิปไตยโดน “บอนไซ” ไร้การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาฯมานานโขทีเดียว กระแสความคึกคัก ตื่นตัว จึงเข้มข้นมาตั้งแต่เริ่มโหมโรง จนถึงโค้งหักศอกสุดท้าย เรียกว่าซดกันมันหยดติ๋งๆ ทุกช็อต!!
ด้วยเหตุนี้ ผู้ทำหน้าที่ “ท้าวมาลีวราช” ควบคุมการเลือกตั้ง เพื่อผดุงให้เกิดความยุติธรรมโปร่งใสเป็นไปตามกติกาสากล…หนีไม่พ้นองค์กรอิสระอย่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “ กกต.” ไปได้…
ยิ่งสถานการณ์ ดุเดือดเลือดพล่านมากเท่าไหร่ กกต.ยิ่งต้องดึงสายป่านตึงเป๊ะ จะหย่อนยาน “ตกท้องช้าง” ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะวันสุกดิบ ก่อนถึงวันหย่อนบัตรหนึ่งวัน ที่เรียก “คืนหมาหอน”ซึ่งต้องเงี่ยหูฟังเป็นพิเศษ!!
คืนหมาหอน ยุคอนาล็อกในอดีต ผิดแผกแตกต่างกันลิบลับกับ คืนหมาหอน ยุคสมาร์ทดิจิตอล โลกจ้ำพรวดๆเร็วกว่าเดิม เทคโนโลยี่ล้ำลึกขึ้น ขโมยขโจรจึงคิดหาวิธีพลิกแพลง ชั้นเชิงหลอกล่อ แพรวพราว ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าเก่า บางมุขทำเอาหมาถึงกับสำลักน้ำลาย กลายเป็น “แมวนอนหวด”ไปเหมือนกัน!!
ย้อนรอยกลับไปเมื่อสมัยก่อนปี40 ตั้งแต่ กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้จัดการเลือกตั้งทุกรูปแบบ บรรยากาศคืนหมานอนไม่หลับ ในพื้นที่ต่างจังหวัด คงนึกถึงภาพของบรรดา “หัวจ่าย” พากันแบกลัง สะพายเป้ หิ้วกระเป๋าเจมส์บอนด์ อัดแน่นไปด้วย “กระสุนดินดำ” ไปปิดล้อมหมู่บ้านกันแต่หัววัน ถึงขนาดนอนเฝ้ายันเช้า ปิดทุกช่องทางไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าไปเจาะได้…
บรรยากาศคืนหมาหอน “หัวคะแนน-หัวเบี้ย” เดินกันให้ขวักไขว่ ทำเอาหมูหมากาไก่…ไม่เป็นอันหลับอันนอน หอนเห่าเขย่ากรงกันทั้งคืน!
แต่ใช่ว่าจู่ๆนึกอยากจะลากกระสุนดินดำออกไปสาดถล่มแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ขอบอกเลยว่า ไม่ไช่นะจ๊ะ “นักเลือกตั้ง”สมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัคร ส.ส.หนอนเจ้าถิ่น หรือ คนต่างบ้านต่างเมือง ที่หิ้วกระเป๋าใบเดียวไปลงสมัครในท้องถิ่นต่างจังหวัด ที่ชาวบ้านเรียก “ส.ส.หมาหลง” ซึ่งในยุคนั้นยังทำได้ และนิยมทำกัน เพราะต้นทุนจูงตัวเองเข้าสภาฯไม่สูงมากนัก…
ช่วงโค้งสุดท้ายนี้แหละ นักการเมือง หรือที่เรียกกันว่า “เบื้องบน”เขาจะส่ง “หัวคะแนน” หรือ “คนเดิน”ออกไปตะแคงหูฟังตามสภากาแฟบ้าง ตามตลาดร้านค้า ตามย่านชุมชนบ้าง สืบเสาะเจาะข่าวตามหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ เพื่อเช็คเรตติ้งคะแนนเสียงของตัวเอง พร้อมกับสืบความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม!!
จิ้งจก ตุ๊กแก ตรงไหนร้องทัก…ฟังหมด!!
ภาษาศัพท์ทางเทคนิค เขาเรียก “จีบคะแนน”พอมีข้อมูลว่าตรงไหน “จุดบอด-จุดสลบ-จุดตาย”ครบถ้วนกระบวนความแล้ว ก็รายงานให้เบื้องบนรับรู้รับทราบ
จากนั้นถึงจะ “วางงาน” ลั่นกระสุนนัดสุดท้าย เปิดเกมชิงดำคืนหมาหอน หักเหลี่ยมเฉือนคม ชิงไหวชิงพริบ “หักดิบ” กันดุเดือด!!
ไล่กันไปเป็นทอดๆ หัวคะแนน-หัวเบี้ย-หัวจ่าย และสุดท้าย หัวสูบ!!
บ่อยครั้งมักปรากฏข่าว หลังผ่านพ้นวันเลือกตั้ง… “งานเข้า”เหล่าบรรดาหัวๆทั้งหลายแหล่ที่เล่นไม่ซื่อ ส่งตั๋วมา รับกระสุนดินดำไป แต่สับนกเหนี่ยวไกใช้ “กระสุนหลอก” ไม่ออกอาวุธ พอ “เงินไม่มา กาไม่เป็น” เกมส์พลิก รายการเช็คบิล เกิดคดีพลิกผีคิดบัญชีโหด จึงตามมา!!
ในยุคก่อน พิธีกรรมร่ายมนต์ดำค่ำคืนหมาหอน ทำกันง่าย แต่สมัยนี้ทำได้ยากขึ้น วิถีโลกเปลี่ยนไป “ดวงตาที่สาม” กระจายอยู่ทุกหนแห่งราวตาสับปะรด ถูกจับจ้องมองดูทุกย่างก้าว แค่ทำเข็มหล่น เสียงก็ดังสะท้าน ไปทุกหย่อมหญ้า กลโกงเล่นได้ยากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เสียเลยทีเดียว! ถ้าคิดจะซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ต้องถึงกับติดปีกเหยียบเมฆ เหาะมาแบบเหนือชั้น กันเชียวละ…
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ…ต่อให้แอบแซ่บ “กระมิดกระเมี้ยน” กันท่าไหน ยังไงก็ไม่รอดพ้น “จมูกมด” ไปได้…
ก่อนปลาจะเน่า ยังไงเสียมันต้องมีกลิ่นตุๆ โชยออกมาก่อนเสมอ!!