นโยบายใหม่…ขุดเจาะถนนวางระบบท่อ ผู้รับเหมาต้องประชาสัมพันธ์โครงการ ประสานชาวบ้านรับรู้-เร่งแก้ไขหากได้รับผลกระทบ

นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงชัย รองปลัดเมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินโครงการวางระบบท่อระบายน้ำ การปรับปรุงทางเท้า และการวางระบบสายไฟลงใต้ดินบริเวณริมถนนเทพประสิทธิ์ ช่วงจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณหน้าโรงละครดีลักษ์ หลังผู้รับจ้าง ได้แก่ บ.พรหมโยธาระยอง (1993) จำกัด ได้เริ่มก่อสร้างตามโครงการ ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2566 ในวงเงินงบประมาณกว่า 123.7 ล้านบาท โดยจะก่อ สร้างวางระบบท่อระบายน้ำขนาด 1.80 ม.x1.80 ม.ตลอดแนวความยาวกว่า 6 กม.จากสี่แยกแกรนด์จนถึงปากทางถนนสุขุมวิททั้ง 2 ฝั่ง รวมทั้งการปรับปรุงทางเท้าตลอดแนว และการวางระบบเสาไฟกลางถนนเพื่อให้เกิดความสวยงามและลดปัญหาน้ำท่วมขังภายในบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะทำการต่อเชื่อมระบบเข้ากับท่อรวบรวมน้ำของเมืองพัทยา

ด้านนายสิริพล ศรีประสาทน์ กรรมการผู้จัดการ บ.พรหมโยธาระยอง (1993) จำกัด กล่าวว่าหลังรับดำเนินการโครงการดังกล่าวจากเมืองพัทยา และเริ่มดำเนินการ เมืองพัทยาได้สั่งการให้ทางบริษัทฯเร่งประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างและประชาชนโดยทั่วไป ทั้งการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ รวมทั้งการเข้าพบปะพี่น้องประชาชนตลอดแนวถนน เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ข้อร้องเรียน การขอความร่วมมือในเรื่องผลกระทบต่างๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานสะดวกและได้รับความร่วม มือด้วยดีจากประชาชน ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวจะมีการขุดเจาะผิวจราจรในระยะทุก 200 เมตร เพื่อวางระบบและจะปรับสภาพคืนก่อนขยายแนวต่อไป โดยการนี้จะมีการประสานงานร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อดำเนินการโครงการสายใต้ลงใต้ดินไปในคราวนี้ด้วยเพื่อลดปัญหาการขุดเจาะซ้ำในอนาคต

ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่าเมืองพัทยามีโครงการที่จะต้องแก้ไขปัญหาหลายโครงการ โดยเฉพาะเรื่องของระบบระบายน้ำท่วมขังและการปรับปรุงผิวจราจร รวมถึงสภาพทางเท้าสาธารณะ เพื่อให้ลดปัญหาที่เกิดขึ้น จนทำให้ประชาชนมองว่าเมืองพัทยาดำเนินการขุดเจาะสร้างความเสียหาย แท้จริงแล้วทุกโครงการถือเป็นเรื่องจำเป็น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอาจไม่ได้รับความสะดวกในการประสานงานกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินโครงการ กรณีนี้นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา จึงสั่งการเป็นนโยบายใหม่เร่งด่วน ให้ผู้รับจ้างในทุกโครงการทำการประชาสัมพันธ์และประสานงานกับประชาชน หากได้ผลกระทบ จะได้เข้าแก้ไขได้รวดเร็ว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่โครงการนี้เป็นต้นไป.