วันอังคาร, มีนาคม 4, 2025
Latest:

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงการตรวจค้น “ปอเนาะลำใหม่”โปร่งใส ทุกฝ่ายรับรู้

            จากกรณีเจ้าหนัาที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเก็บหลักฐานภายในโรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยา (ปอเนาะลำใหม่)เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2562 และมีการนำเสนอข่าว ว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจัดเก็บ DNA นักเรียนเกือบ 500 คน และล่าสุดได้เสนอข่าวคำให้สัมภาษณ์ นายสะมะแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาต รร.พัฒนาอิสลามวิทยา โดยมีข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายเรื่องอันอาจทำให้สังคมเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เช่น มีการเก็บDNA 20- 30 คน และเข้าปฏิบัติโดยไม่แจ้งวัดถุประสงค์และไม่พบหลักฐานที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น

            ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2562 เวลา 11.00 น. พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ได้แถลงชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เหตุผลและความจำเป็นในการเข้าตรวจค้นโรงเรียน ปอเนาะดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจากเหตุคนร้ายเข้าโจมตี ชรบ.เสียชีวิต 15 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย โดยผู้ถูกควบคุมตัว1คน ให้การยอมรับว่าร่วมก่อเหตุจริงโดยก่อนเกิดหตุได้ไปรวมตัวกันบริเวณหลังโรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยา (ปอเนาะลำใหม่) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อแจกจ่ายอาวุธปืน โดยมีนายสุดิน เจ๊ะแว อุสตาส โรงเรียนพัฒนอิสลามวิทยาหรือปอเนาะลำใหม่ เป็นคนร่วมวางแผน, อำนวยความสะดวกและทำหน้าที่ดูแลตันทางก่อนเข้าโจมตี ชรบ. ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เสริมกำลังเข้าควบคุมตัวอุสตาส คนดังกล่าวได้ที่บ้านพักหลังปอเนาะลำใหม่ เมื่อวันที่14พ.ย.2562 เวลา 04.00 น.และนำไปควบคุมตัวเพื่อซักถามที่หน่วยซักถามกรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร

            นอกจากนี้ ขั้นตอนในการเข้าตรวจสอบภายหลังควบคุมตัวอุสตาส เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเข้าตรวจสอบภายใน รร.พัฒนาอิสลามวิทยา เพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ได้ร่วมกับกำลัง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายปกครอง ส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดนิติทยาศาสตร์เข้าไปประสานกับนางรุสนี แมเราะ ผู้จัดการโรงเรียน และนายมะสบรี ฮารีผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์และขอความร่วมมือในการขอเข้าตรจสอบหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ เนื่องจากอุสตาสที่ถูกควบคุมตัวเป็นครูสอนศาสนาใน โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีบุคลากรของโรงเรียนเป็นผู้นำตรวจบริเวณห้องธุรการ บ้านพักครู 2 หลังและที่พักนักเรียน 22 หลัง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังภายในเขตรั้วโรงเรียน

            ผลตรวจพบความผิดปกติในการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยไม่พบสิ่งผิดปกติภายในบ้านพัก แต่ได้ตรวจพบโสร่งมีรอยคล้ายเปื้อนเลือดตกอยู่ระหว่างบ้านพักครู 2 หลัง สอบถามไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บหลักฐานที่โสร่งและขอตรวจ DNA อุสตาส ที่เป็นเจ้าของบ้านเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยทั้ง 2 คนคือนายยูโส้ะ เด็นอะสัน และนายซูลกิฟลี ฮารี ได้ลงนามยินยอมให้ตรวจเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นเลือดแต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นเลือดคนหรือเลือดสัตว์

            จึงขอยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นยางกล้วยตามที่นายมะสบรี ฮารี ผอ.รร.พัฒนาอิสลามวิทยาได้ให้สัมภาษณ์สื่อไป ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ส่งหลักฐานดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กทม. โดยจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์

            ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความรู้สึกโดยไม่ใช้กำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นดังที่เป็นข่าว ทั้งนี้ ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ส่วนท้องที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปประสานขอความร่วมมือและแจ้งวัตถุประสงค์ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบล่วงหน้า และภายหลังได้รับอนุญาตแล้ว จึงได้แจ้งให้ชุดนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปตรวจเก็บหลักฐานดังกล่าวโดยไม่ใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษที่มีอยู่เข้าไปข่มขู่ ขู่เข็ญ และคุกคามบุคลากรและนักเรียนแต่อย่างใด

            จากเหตุผลและขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังที่กล่าวเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวังและโปร่งใสภายใต้การรับรู้และมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงเรียนต่างก็รับรู้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการด้านหลักฐานและไม่เคยสรุปว่า ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ในโรงเรียน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจเก็บ DNA นักเรียนจำนวน 500 คน หรือ 20-30 คน ตามที่ถูกนำเสนอข่าวผ่านสื่อ แต่อย่างใด ดังนั้น จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนได้ระมัดระวังในการให้ข่าวและเสนอข่าวที่ถูกบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงเพราะอาจมีความผิดตามกฎหมาย

            ด้านสรุปความคืบหน้าทางคดีภายหลังเกิดหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุทั้งปลอกกระสุนปืน รอยเลือด และวัตถุพยานอื่นๆ รวมทั้งผลจากการชักถามทำให้สามารถระบุคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้แล้ว 2 คน นอกจากนี้ ยังสามารระบุอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้แล้ว1 กระบอก จากทั้งหมด 25 กระบอก,ตรวจพบหลักฐาน  DNA จากรอยเลือด และลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายโดยสามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 3 คน

            สรุปผลคืบหน้าในภาพรวม ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 17 คน ปล่อยกลับ 6 คน คงเหลือ11 คน ให้การรับสารภาพ 1 คน และสามารถออกหมายจับ ป.วิอาญา ได้แล้ว 3 คนและหมาย พรก.ฉุกเฉิน 5 คน และจะเร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมส่วนที่เหลือต่อไป

ภาพ/ข่าว-อับดุลหาดี  เจ๊ะยอ  จ.ยะลา