อาชญากรรม

หวั่นระบาดรอบสอง!!พัทยาปลดล็อกเฟส 5 นักเที่ยวแห่ท่องราตรีสุดชิล ไม่สนวิถีนิวนอร์มอล

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ได้ประกาศผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ในระยะที่ 5 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานบริการจำพวกผับ บาร์ และคาราโอเกะ สามารถเปิดบริการได้ตามปกติจนถึงเวลา 24.00 น. นั้น

ผู้สื่อข่าวออกสำรวจบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 4 ก.ค.63 พบว่ามีสถานประกอบการและสถานบันเทิงบางแห่งเปิดให้บริการแล้วบ้างแต่ไม่มากนัก โดยในส่วนของโครงการถนนคนเดินพัทยาใต้ หรือวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา มีสถานประกอบการเปิดให้บริการประมาณ 50% เท่านั้น เนื่องด้วยสถานประกอบการไม่อยากแบกรับภาระในช่วงที่นักท่องเท่ียวกำลังซบเซา

กระนั้นถือว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวยามราตรีของเมืองพัทยาเริ่มมีสีสันขึ้นมาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยบางส่วนต่างเข้าใช้บริการตามร้านรวง ที่เปิดให้บริการ ถึงแม้ภาพรวมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยายังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติก็ตาม

ต่อมา พ.ต.ท.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการการทำงานร่วมกับสารวัตรทหาร และหน่วยปฏิบัติการพิเศษเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการและสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองพัทยา ตามมาตรการการป้องการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้นโยบายมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศให้ร่วมกันกวดขันดูแล เพื่อสร้างมาตรฐานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบภายในโครงการถนนคนเดิน พัทยาใต้ หรือโครงการวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา และสถานบันเทิงบริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติสาย 3 พบว่าสถานบันเทิงและร้านค้าต่างๆ ยังไม่เปิดให้บริการเต็มระบบ มีบางร้านเท่านั้นที่เปิดให้บริการทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจับกลุ่มกันภายในร้าน ซึ่งดูสุ่มเสี่ยงต่อการขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงแม้ว่ามีมาตรการที่เข้มงวดจากทางร้านแล้ว แต่ปริมาณผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทำให้เกิดความหย่อนยานและความหละหลวมในการปฏิบัติตามมาตรการจากทางภาครัฐ

จากนั้น พ.ต.ท.นิทัศน์ ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ได้พูดคุยชี้แจงพร้อมขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่างๆ ร่วมให้ความร่วมมือที่ดีต่อการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบที่สอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่กำลังเจออยู่ก็เป็นได้ จึงอยากให้ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อสังคมและมีจิตสำนึกที่ดีในการทำธุรกิจของตัวเอง เพื่อที่จะให้ประเทศชาติก้าวผ่านวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ไปให้ได้