ระทึก! เรือประมงเช่าเครื่องดับ–คลื่นซัดจม 14 ชีวิตลอยคอ 7 ชั่วโมงกลางทะเลพัทยา โชคดีเจอโทรศัพท์ในกระเป๋าจมน้ำแต่ไม่ดับ ใช้โทรแจ้งเหตุ
จากการณีเมื่อเวลา 13.33 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์วิทยุสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา พร้อมด้วย ศรชล.ชลบุรี รับแจ้งเหตุจากกลุ่มไลน์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และสายด่วน 1465 ว่ามีเรือประมงบรรทุกนักท่องเที่ยวล่มกลางทะเล ระหว่างเกาะมารวิชัย–เกาะไผ่ ท่ามกลางสภาพคลื่นลมแรง
ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 14 คนเป็นชาวไทย ออกเดินทางจากท่าเรือแหลมบาลีฮายตั้งแต่เวลา 07.00 น.เช่าเรือประมงสีฟ้า–แดง ลักษณะเป็นเรือตกหมึก มี “ไต๋เล็ก พัทยา” เป็นผู้ควบคุมเรือ มุ่งหน้าไปกางเต็นท์พักผ่อนที่เกาะมารวิชัย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลตั้งจุดบัญชาการที่แหลมบาลีฮาย ก่อนนำเรือออกค้นหาจนพบผู้ประสบภัยลอยกระจัดกระจายอยู่ในทะเล และทยอยนำกลับเข้าฝั่งได้ทั้งหมด ผู้ประสบภัยอยู่ในสภาพอ่อนแรง หนาวสั่น แต่ยังรู้สึกตัวครบทุกคน ยกเว้นไต๋เรือ อายุประมาณ 40 ปี ที่หมดสติ ต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เป็นการด่วน
นายราม อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิต เล่าว่า หลังออกจากฝั่งได้ไม่นาน เครื่องยนต์เกิดอาการดับหลายครั้งกระทั่งสามารถสตาร์ตติด แต่สถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วงเมื่อคลื่นลมแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 09.00 น. ปั๊มน้ำในห้องเครื่องขัดข้อง ทำให้น้ำทะลักเข้าเรืออย่างรวดเร็ว ก่อนคลื่นลูกใหญ่ซัดบริเวณหัวเรือจนจมลงต่อหน้า นักท่องเที่ยวทั้ง 14 ชีวิตต้องลอยคอกลางทะเลเป็นเวลานาน โดยบางรายไม่มีเสื้อชูชีพ ต้องใช้กระเป๋า เสื้อผ้า และสัมภาระที่ยังลอยน้ำแทนทุ่นพยุงชีพ พยายามจับกลุ่มอยู่ร่วมกันไม่ให้คลื่นซัดกระจัดกระจาย ท่ามกลางความหวาดกลัวและหมดแรง
จนกระทั่งหนึ่งในกระเป๋าที่ลอยอยู่พบโทรศัพท์ iPhone ของเพื่อน ซึ่งยังไม่จมน้ำ จึงพยายามโทรแจ้งเหตุ โดยระบุว่าสัญญาณขาดหายหลายครั้ง ก่อนสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จราว 15.00 น. หลังลอยคอนานกว่า 7 ชั่วโมงเต็ม


