คนค้าขายประสานเสียงหนุนรัฐบาลอนุทิน ฟื้นโครงการ and“คนละครึ่ง” กระตุ้นเศรษฐกิจ–ลดค่าครองชีพ
หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ประกาศนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อ เพิ่มรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการลดค่าครองชีพ โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญคือการนำ “โครงการคนละครึ่ง” กลับมาใช้อีกครั้งในรูปแบบปรับปรุงใหม่ หลังจากเคยได้รับเสียงตอบรับที่ดีในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ต่อมา ผู้สื่อข่าวสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่เมืองพัทยาเกี่ยวกับการกลับมาของโครงการคนละครึ่ง ของรัฐบาลนายอนุทิน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นด้วยเพราะเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายได้ อาทิ นายนิพนธ์ ศรีรัฐกานต์ชัย พ่อค้าขายข้าวแกง กล่าวว่า เชื่อว่าหากมีการนำโครงการคนละครึ่งกลับใช้อีกครั้งถือเป็นเรื่องที่ดี ด้วยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน อยากฝากรัฐบาลชุดใหม่หากมีการฟื้นโครงการดคนละครึ่งก็อยากให้เพิ่มยอดเงินในการใช้จ่ายด้วย
ด้าน นางสาวมลิวัลย์ สุโนนคุณ แม่ค้าข้าวแกง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งถือเป็นโครงการที่ดี ครั้งที่แล้วที่มีการนำโครงการนี้มาใช้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น สามารถกระตุ้นการจับจ่ายทั้งคนซื้อและคนขายได้อย่างมาก สามารถกระจายรายได้และลดภาระค่าครองชีพในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้มีการนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้อีก ประชาชนทุกคนก็เรียกร้องอยากให้มีโครงการนี้อีก เชื่อว่าหากมีการนำโครงการคนละครึ่งมาใช้ จะทำให้การค้าขายคล่องตัวมากขึ้น และยังช่วยลดค่าครองชีพให้ลูกค้าได้อีกทางหนึ่งและดีกว่าโครงการอื่นๆ ที่มีมา “โครงการคนละครึ่งถือเป็นโครงการที่สุดยอดมาก”
ขณะที่ นายเสรีกิจ เยี่ยมชัยภูมิ พ่อค้าขายผลไม้ กล่าวว่า อยากให้โครงการคนละครึ่งกลับมามาก ด้วยจะมีกำลังซื้อมากขึ้น คนซื้อกล้าใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจเงียบเหงา การจับจ่ายใช้สอยซบเซา และไม่มีอะไรที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาเลย หากโครงการคนละครึ่งกลับมาเชื่อ100% ว่าการค้าขายจะดีขึ้น ประชาชนทุกคนอยากให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ อีกทั้งพ่อ-แม่ค้าจะมียอดขายมากขึ้นตามไปด้วย และจะไม่เงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับโครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ประชาชนตอบรับเป็นอย่างดี เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ดำเนินการมา 5 เฟส รวมวงเงิน 234,500 ล้านบาท ในระหว่างปี 2563-2565 เพื่อบรรเทาค่าครองชีพในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


