วันเสาร์, พฤษภาคม 17, 2025
Latest:

แ่ม่ทัพภาค 4 ลั่น ต้องล่าตัวให้ได้! หลังคนร้ายเหิม ทำร้ายประชาชน ผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ จชต.เตือนประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้หวังสร้างความแตกแยก

โจรใต้ยังคงก่อเหตุทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างต่อเนื่องมาตลอดสัปดาห์ โดยตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงประชาชน 3 ราย ขณะรับประทานอาหารในขนำกลางสวนปาล์มบ้านซะ หมู่ที่ 2 ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพื้นที่พบปลอกกระสุน ขนาด 5.56 จำนวน 70 ปลอก กระสุนขนาด 5.56 จำนวน 5 นัด รวมทั้งยังพบข้อความเขียนในกระดาษ A4 จำนวน 4 แผ่น ข่มขู่หวังเชื่อมโยงเหตุลอบยิง นายอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ อายุ 60 ปี อดีตอุสตาซประจำชุมชน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากละหมาด ที่บริเวณโกดังของห้างหุ้นส่วนจำกัดฟาร์มิลล์ติ รับเบอร์ ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

ต่อมาในวันที่ 27 เมษายน 258 เวลาประมาณ 22.05 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้ายาริส สีขาว ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนชุดคุ้มครองตำบลเขาตูม บริเวณถนนซอยหมู่ที่ 7 ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้ อุสมาน จิใจ เสียชีวิต และ มูหำหมัดซอดิก เกะรา ได้รับบาดเจ็บ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ซึ่งทั้งสองนายเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนชุดคุ้มครองตำบลเขาตูม ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ในพื้นที่เกิดเหตุ

ต่อด้วย วันที่ 28 เมษายน 258 เวลาประมาณ 00.40 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่ นายหมู่เอก ธีรวุฒิ พุทธรัตน์ จนเสียชีวิตที่บริเวณชุดคุ้มครองตำบลตลิ่งชัน หมู่ที่ 1 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา จากนั้นได้วางเพลิงเผารถยนต์ส่วนตัวของผู้เสียชีวิต จำนวน 1 คัน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ เตรียมขยายผลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

ตามด้วยในช่วงเช้าวันที่ 28 เมษายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน หมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4412 ฐานบ้านจาเราะแป อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ขณะเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจที่กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ทำให้ ดาบตำรวจ อิศเรศ อินทรเพ็ชร และ สิบตำรวจโท มนต์พิทักษ์ เพชรนุ้ย เสียชีวิต และ สิบตำรวจโท ภานุวัฒน์ เวชผสาร ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลธารโต จังหวัดยะลา

รวมถึงเหตุน่าสะเทือนใจล่าสุดที่เกิดขึ้นในจ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มีคนร้ายประกบยิงหญิงชราตาบอด วัย 76 ปี เสียชีวิต และนายทัศไนย์ ตั้งคง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ อ.จะแนะ ตามด้วยกราดยิงบ้านประชาชนใน อ.ตากใบ ที่ทำให้ดญ.พิการ วัย 9 ขวบเสียชีวิตทันที และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย

ด้านพลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เข้าตรวจสอบเหตุการณ์ลอบยิง นายอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ อายุ 60 ปี อดีตอุสตาซประจำชุมชน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมประกาศชัดเจนว่า “จะต้องนำตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้!” พร้อมสั่งการเร่งรัดหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งได้ประชุมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ปรับแผนและยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ มาตรการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่ออุดช่องว่างในการก่อเหตุ ลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ตลอดจนสร้างความเข้าใจระหว่างพี่น้องไทยพุทธ-ไทยมุสลิม ไม่ให้เกิดความเกลียดชังและเคลือบแคลงใจ รวมถึงเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น โดยทุกมาตรการของเจ้าหน้าที่จะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และใช้แนวทางการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงในทุกมิติ

นอกจากนี้ พลโทไพศาล ยังได้สั่งการ ให้ทุกหน่วยกำกับดูแล การปฏิบัติ ของกำลังพล อย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพล ทุกนาย ตระหนักว่าเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นเป้าหมายการลอบทำร้ายของฝ่ายตรงข้าม ตลอดเวลา และขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ให้ตรวจสอบ และโปรดใช้วิจารณญาณ กลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร อย่าหลงเชื่อ ไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลต่อข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ หรือยืนยันจากหน่วยงานที่เป็นทางการ ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่หวังสร้างความแตกแยกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่าน เหตุดังกล่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้มีการทำลายทรัพย์สินทั้งของทางราชการของผู้เสียชีวิต และของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส พบวัตถุต้องสงสัย หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง