ทล.ชบ.เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน #1โครงการสำรวจออกแบบถนนรองรับโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC-เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ สายแยก ทล.331-ทล.3376 ชลบุรี-ระยอง
ที่ห้องประชุมถาวร-อุษา พรประภา โรงแรมอีโค่ ธรรมศาสตร์ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี (27 ก.พ.2568) นายอดิเรก อุ่นโอสถ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการสำรวจออกแบบถนนเพื่อรองรับโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ สายแยก ทล.331–ทล.3376 จังหวัดชลบุรี ระยอง
กรมทางหลวงชนบท ซึ่งมีหน้าที่ในการสนับสนุนการก่อสร้างโครงข่ายถนนเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการสำรวจออกแบบโครงข่ายถนนในช่วงระยะแรก คือ ถนนสายแยก ทล.331-ทล.3376 จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง รวมถึงศึกษาความเหมาะสมโครงข่ายถนนของโครงการดังกล่าวทั้งสายหลักและสายรอง ทั้งนี้โครงข่ายถนนดังกล่าวสามารถเชื่อมการเดินทางหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) ทั้งทางถนน และทางราง ทางอากาศ และสามารถเชื่อมโยงต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งอื่นๆ แก้ไขปัญหาจราจรด้วยการสร้างทางเชื่อม (Missing Link) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่โครงการและภาพรวมของจังหวัดในแขนงต่างๆ
สำหรับการจัดประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลรายละเอียดสาระสำคัญหรือข่าวสารของการพัฒนาโครงการ อาทิ ความเป็นมา วัตถุประสงค์ของโครงการ แผนการศึกษา และแผนการดำเนินงานให้ผู้มีส่วนได้เสีย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสีย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ให้ข้อคิดเห็น ข้อวิตกกังวล และข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาโครงการ เพื่อนำไปสู่การศึกษาออกแบบที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
นายอดิเรก อุ่นโอสถ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ซึ่งได้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเงินระดับภูมิภาคมาตรฐานเทียบเท่าสากล และให้เป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 เมืองของโลกในปี 2580 รวมถึงเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาเมืองใหม่ทั่วประเทศไทย ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับโครงข่ายถนนดังกล่าวสามารถเชื่อมการเดินทางหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) ทั้งทางถนน และทางราง ทางอากาศ เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด โครงการท่าเรือแหลมฉบัง และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เป็นต้น และสามารถเชื่อมโยงต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งอื่นๆ แก้ไขปัญหาจราจรด้วยการสร้างทางเชื่อม (Missing Link) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และพัฒนา เป็นทางลัด (By Pass) ทางเลี่ยง (Shortcut) ระหว่างจังหวัด ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่โครงการและภาพรวมของจังหวัดในแขนงต่างๆ เช่น การบริการ การค้า การอุตสาหกรรม การคมนาคมขนส่ง เป็นต้น และเป็นเส้นทางเชื่อมโยงโครงข่าย Logistic ของประเทศไทยอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการ และรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน เพื่อช่วยกันพิจารณาแนวทางการพัฒนาต่างๆ ที่คณะผู้ศึกษาได้นำเสนอ และที่สำคัญที่สุด คือ ช่วยกันแสดงความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ เพื่อให้คณะทำงานนำไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่าย