พายุ“จ่ามี”สลายตัว แต่ยังส่งผลทำคลื่นทะเลสูง-ลมแรง ตำรวจท่องเที่ยวฯ เตือน “ธงแดง”ดูแลเข้มนักท่องเที่ยวไปเกาะล้าน
ถึงแม้ว่าพายุโซนร้อนกำลังแรง “จ่ามี” ที่กำลังเคลื่อนตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน อยู่ห่างเกาะไหหลำประมาณ 400 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 26–28 ตุลาคม 2567 โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่มีอิทธิพลส่งผลต่อสภาพลมฟ้าอากาศอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณอ่าวไทย และแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่ปรากฏว่าคลื่นลมในทะเลได้ทวีความแรงเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมกับจัดชุดสายตรวจฯ ประสานงานกับกรมเจ้าท่า และฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางทะเลเมืองพัทยา ออกตรวจตราและแจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการเดินเรือโดยสาร และเรือท่องเที่ยวทุกประเภท ให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อนักท่องเที่ยว โดย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1,พ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1,พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. พร้อมสายตรวจตำรวจท่องเที่ยว ได้ประสานงานกับ สำนักงานเจ้าท่าพัทยา และ ฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางทะเลเมืองพัทยา กรณีคลื่นลมแรงในบริเวณอ่าวพัทยา ความสูงประมาณ 1.5 – 2 เมตร โดยทางเจ้าท่าพัทยา ได้ยกธงแดงครึ่งเสา ซึ่งอาจเกิดความไม่ปลอดภัยในการเดินทางทางทะเลของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเกาะล้าน
ตำรวจท่องเที่ยวฯ ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร จึงได้ ร่วมกับสำนักงานเจ้าท่าพัทยา,เมืองพัทยา และผู้ประกอบการเรือ นำเรือสปีดโบ๊ท ออกเดินทางจากท่าเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้ ไปยังท่าเรือหน้าบ้านและท่าเรือหาดตาแหวน เกาะล้าน เพื่อประเมินสถานการณ์คลื่นลม พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งต่อผู้ประกอบการเรือฝั่งเกาะล้านและท่าเรือแหลมบาลีฮาย ให้เรือสปีดโบ๊ทขนาดเล็ก 1 เครื่องยนต์ งดออกเรือ ส่วนเรือขนาด 2 เครื่องยนต์ขึ้นไป และเรือโดยสารให้ออกเรือได้ แต่ให้ใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ยังช่วยเหลืออำนวยความสะดวก แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ในการขึ้นลงเรือโดยสารไปยังเกาะล้าน โดยได้เน้นย้ำให้สวมใส่เสื้อชูชีพ ตลอดการเดินทาง อีกด้วย
สำหรับการลงพื้นที่ออกปฏิบัติงานของตำรวจท่องเที่ยวพัทยาในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น โดยก่อนหน้านี้ ทาง พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1 เดินทางมาเป็นประธานการประชุมร่วมกับเมืองพัทยา สภ.เมืองพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ททท.สำนักงานพัทยา ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ย่านวอล์คกิ้งสตรีท และกลุ่มผู้ประกอบกิจการบริการนักท่องเที่ยวด้านต่างๆ ในพื้นที่พัทยา เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ
ในส่วนของสภาพภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง “พายุจ่ามี” ฉบับที่ 16
ขณะที่ ในวันที่ 29 ต.ค.กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ☔🌨️ ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า แต่ยังคงฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ ☔ ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
🌊 ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
🌊 สำหรับสภาพคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ในช่วงวันที่ 28 ต.ค. – 2 พ.ย.2567 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในวันที่ 3 พ.ย. 67 บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
📌 ข้อควรระวัง: ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง รวมทั้งฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง