เมืองพัทยา ร่วม พม.ชลบุรี จัดระเบียบคนเร่ร่อนใต้สะพานข้ามแยก สาย 7 พร้อมจับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องสางปัญหาแบบถาวร

นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายธนวัฒน์ ตาลทอง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชน รักษาการในตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สำนักสวัสดิการสังคม เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครอง คนไร้ที่พึ่ง จังหวัดชลบุรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์(พม.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง ร่วมจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อน คนไร้บ้าน บริเวณใต้สะพานข้ามแยกจากสุขุมวิทไปทางด่วนสาย 7 ตอน 5 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร หลังมีประชาชนร้องเรียนผ่านสื่อว่ามีคนเร่ร่อนจำนวนหนึ่งมากางเต็นท์ และสร้างที่พักอาศัยอยู่รวมกัน หวั่นเป็นแหล่งมั่วสุมก่อเหตุอาชญากรรม สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา

จากการเข้าไปตรวจสอบ บริเวณใต้สะพานข้ามแยกไม่พบคนเร่ร่อนแต่อย่างไร มีเพียงสิ่งของทั้งขวดน้ำ ของใช้ส่วนตัว ที่นอนผ้าห่ม และจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน โดยมีการแบ่งพื้นที่ทำเป็นล็อคๆ เพื่อเป็นที่พักอาศัย จำนวน 4 ล็อค แต่ละล็อคมีสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของแต่ละคน โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่มีค่าทั้งหมดขึ้นรถ เพื่อเอาพื้นที่คืนและทำความสะอาด ส่วนรถจักรยานยนต์ 2 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง นำไปไว้ที่สภ.บางละมุง เพื่อให้เจ้าของรถนำเอกสารหลักฐานมาแสดง เพื่อขอรับรถคืน

นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากที่เมืองพัทยาได้รับเรื่องร้องเรียนว่าบริเวณดังกล่าวมีคนเร่ร่อนมาอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่ามีคนเร่ร่อนมาสร้างที่พักอาศัยอยู่แบบถาวร ทำให้ต้องเร่งเอาพื้นที่คืน ก่อนที่คนเร่ร่อนจะขยายพื้นที่ มาพักอาศัยมากว่านี้ พร้อมทั้งหาแนวทางในการดูแลคนเร่ร่อนเหล่านี้ต่อไป เนื่องจากพบว่ามีคนเร่ร่อนบางรายมีการนำเด็กหญิงอายุ 16 ปีและอายุ 4 ขวบมาพักอาศัยอยู่ด้วย หวั่นเกิดอันตรายกับเด็กและอาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมในอนาคต ทำให้ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วน

รองนายกเมืองพัทยา กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่รื้อสิ่งของออกจากพื้นที่สาธารณะทั้งหมด พร้อมให้เจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมทำความสะอาดพื้นที่บริวณใต้สะพานข้ามแยกดังกล่าว ที่ผ่านมาปัญหาคนเร่ร่อนในเมืองพัทยานั้น ทางเมืองพัทยาไม่ได้นิ่งนอนใจและแก้ไขจัดระเบียบมาอย่างต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ด้วยปัญหาอุปสรรคของกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปจับกุม หรือนำตัวไปอยู่หน่วยงานที่รับดูแลกลุ่มคนเหล่านี้โดยตรงได้ หากคนเร่ร่อนเหล่านี้ไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้

“แม้คนเหล่านี้จะได้เข้าไปอยู่ในหน่วยงานที่รับดูแลและได้ฝึกอาชีพก็ตาม สุดท้ายก็ออกมาเร่ร่อนเหมือนเดิม ปัญหาดังกล่าวก็จะวนเวียนแบบนี้ในเมืองท่องเที่ยว แต่จะหารือกับหน่วยงานต่างๆ ในการหามาตรการแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนในเมืองพัทยาแบบถาวร และให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด ภายใต้กรอบกฎหมายที่เมืองพัทยาสามารถดำเนินการได้ต่อไป” นายวุฒิศักดิ์ กล่าว