สถานการณ์โควิด-19 ชลบุรี 18 พ.ค 2565 ยังทรงตัว เสียชีวิตเพิ่มเป็น 0 ครั้งแรก
สสจ.ชลบุรีรายงานว่าวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ RT-PCR จำนวน 113 ราย ผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ATK 1,627 ราย
ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 1,020,547 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,765 คน (อัตราป่วย 172.95 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 2 ราย (0.20 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 1 ราย (0.10 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 8 ราย (0.78 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,957,253 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,303 คน (อัตราป่วย 66.57 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 15 ราย (0.77 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 7 ราย (0.36 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 10 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 121,055 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 250,765 คน รวม 371,820 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 942 คน (อัตราป่วย 253.35 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 22 ราย (5.92 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 6 ราย (1.61 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 18 ราย (4.84 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อหายใจรายใหม่ 1 ราย(มีประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2564)
ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งมีประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565,
รายที่สองไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ดังนั้นการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเข็มที่สาม ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นที่ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรียังไม่ได้รับการฉีดจำนวนมาก การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ยังมีอัตราอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากมาโดยตลอด ขอความร่วมมือให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครบตามเกณฑ์
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี
ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ชิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น
1. วัคซีนเป็นหลัก วัคซีนมีความสำคัญมากในการเข้าสู่ภาวะการดำเนินชีวิตที่อยู่ร่วมกับโควิด-19 วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
2. รู้จักป้องกัน ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ universal prevention ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป
3. แยกกักโควิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรกักตัว ไม่อยู่ในที่ชุมชน
4. เข้าสู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด คัดกรอง ATK เฉพาะผู้ที่มีอาการ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง หรือเป็นบุคลากรที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน
#วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น