ตร.พัทยาแจงคลิปดริฟต์รถบนถนนกลางเมืองแค่ถ่ายหนัง ยันมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ถูกต้อง ยอมรับอ่อนประชาสัมพันธ์
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น วันที่ 21 ม.ค.2565 บริเวณโค้งวงเวียนปลาโลมา ถนนพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ประชาชนร้ิงเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเป็นแก๊งค์รถซิ่งหรู นำรถยนต์จำนวนหลายคันมาจัดทดสอบสมรรถภาพรถและการเบิร์นยางบนถนน ซึ่งเป็นถนนสาธารณะสายหลักของเมืองพัทยาที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้ในการสัญจร แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมพิ เศษเมืองพัทยา คอยยืนอำนวยความสะดวกโดยมีการปิดการจราจรเป็นช่วง และใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก่อนจะแยกย้ายกันไป
กรณีดังกล่าวประชาชนที่เห็นภาพวิพากษ์วิจารณ์ว่ากรณีนี้มีการขออนุญาตหรือไม่ และถามหาถึงความเหมาะสมว่าการนำรถมาวิ่งในลักษณะนี้บนถนนสาธารณะทำไมจึงไม่มีการประกาศแจ้งเตือนหรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้ประชาชนได้รับทราบมาก่อน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการถ่ายทำภาพยนตร์ของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ทั้งการทำหนังสือผ่านมาทาง สภ.เมืองพัทยา และเมืองพัทยา โดยเหตุการณ์นี้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมร่วมหลายฝ่าย เพื่อดูสถานที่และการกำหนดระยะเวลาการถ่ายทำ รวมทั้งแผนการสนับสนุนกำลังที่จะเข้าไปควบคุมกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และไม่สร้างความเสียหายต่อเมืองพัทยาด้วย เพียงแต่ปัญหาอาจเกิดความผิดพลาดจากการประชาสัมพันธ์ไปสู่สาธารณะและประชาชนที่ไม่ได้รับทราบอย่างทั่วถึง โดยหลังจากที่มีการนำเสนอคลิปออกไปทาง สภ.เมืองพัทยา ก็ได้เร่งประสานเมืองพัทยา เพื่อให้แจ้งข่าวสารผ่านไปในหลายช่องทางแล้ว
ขณะที่ต่อมาได้มีการนำข้อมูลมานำเสนอในโลกโซเชียล โดยเป็นข้อความจาก “เนรมิตหนัง ฟิล์ม” ที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ พร้อมกับขอโทษประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในข้อความระบุว่าเหตุการณ์นี้เป็นการยกกองมาถ่ายทำมาที่เมืองพัทยา และฉากนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง “กล้าฝัน ปล้นสนั่นเมือง” ที่มีการขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อย และขณะถ่ายทำก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจ รถพยาบาล และกรมควบคุมโรคมาคอยกำกับดูแลด้านความปลอดภัยด้วย 100 %
ทั้งนี้กรณีที่ทางบริษัทฯออกมาแสดงความรับผิดชอบและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชม อย่างไรก็ตาม ต้องขอฝากไปถึงหน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบในพื้นที่เมืองพัทยา ว่าการปิดการจราจร แม้จะเป็นอำนาจที่รัฐสามารถกระทำได้ แต่ถนนดังกล่าวเป็นถนนสายหลักที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้ในการสัญจร ดังนั้นเมื่อรับทราบว่าจะมีการดำเนินการดังกล่าว จึงควรมีการแจ้งและประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงด้วย.