+กรมเจ้าท่าชุมชนสิ่งแวดล้อม

เหม็นทั่วหาด! คราบน้ำมันจำนวนมากลอยเข้าฝั่งอ่าวอุดม ยังไม่รู้ที่มา

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกลุ่มประมงพื้นบ้านอ่าวอุดมต้นแบบ บ้านอ่าวอุดม ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่ามีคราบน้ำมันเป็นจำนวนมากลอยมาจากทะเลเข้าติดชายหาดบ้านอ่าวอุดม เป็นระยะทางยาว ส่งกลิ่นเหม็นสร้างความสกปรกและทำสัตว์น้ำเตายเกลื่อน จึงเดินทางไปตรวจสอบบริเวณสะพานปลาอ่าวอุดม พบเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 โดยส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล (สจป.) สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ชลบุรี เทศบาลนครแหลมฉบัง สนง.ประมง อ.ศรีราชา และบริษัทไทยออยล์ ตรวจสอบพบเป็นคราบน้ำมันสีดำที่ผ่านการใช้งานแล้วลอยติดบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวอุดม ตลอดแนวความยาวชายฝั่ง 200 เมตร ทำให้ในพื้นที่มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง คราบน้ำมันที่ลอยมาติดชายทะเล ทำให้เรือและขยะที่ลอยในน้ำทะเลติดคราบน้ำมันสร้างความสกปรกเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสร้างความเสียหายกับสัตว์น้ำที่ชาวประมงเลี้ยงไว้ และสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งพลอยตายไปอีกด้วย

นายเปรม ซื่อสัตย์ อายุ 52 ปี ประธานกลุ่มประมงต้นแบบบ้านอ่าวอุดม เปิดเผยว่า มีคราบน้ำมันเป็นจำนวนมากลอยมาติดชายหาดตั้งแต่ช่วงเช้าเลาะชายฝั่งมาจนติดสะพานปลา รวมระยะทางประมาณ 200 เมตร คาดว่าน่าจะเป็นน้ำมันที่ใช้แล้วจากเรือบรรทุกสินค้า เนื่องจากคราบน้ำมันลอยมาจากทางทะเล ทำให้ชาวประมงและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากคราบน้ำมันที่ติดเรือ เรือเข้ามาริมชายหาดไม่ได้ มีปลาและสัตว์น้ำที่เลี้ยงอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะตายหรือไม่ รวมทั้งส่งกลิ่นเหม็นเป็นจำนวนมากด้วย

หลังจากนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันหารือการเก็บกู้คราบน้ำมันดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน เช่น บริษัทไทยออยล์ เทศบาลนครแหลมฉบัง เบื้องต้นบริษัทไทยออยล์ นำรถดูดคราบน้ำมันมาดูดบนผิวน้ำ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดเก็บขยะที่ปนเปื้อนน้ำมันและรวบรวมเพื่อกำจัดให้ถูกต้อง พร้อมติดตามผลกระทบที่จะเกิดหลังจากการเก็บกู้คราบน้ำมันต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วันจึงจะเก็บกู้คราบน้ำมันได้ทั้งหมด

นายสุรชัย ภาสดา รักษาการ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานได้รับแจ้งว่าพบคราบสีดำลอยมาติดชายหาดบ้านอ่าวอุดมจึงมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นคราบน้ำมันจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นคราบน้ำมันชนิดใด โดยในเบื้องต้นจะทำการเก็บกู้คราบน้ำมันและขยะไปก่อน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ ซึ่งทางไทยออยล์จะใช้รถดูดคราบน้ำที่ลอยอยู่บนผิวน้ำไปก่อน เนื่องจากมีปริมาณไม่มาก ส่วนทางเทศบาลแหลมฉบังจะส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บขยะออกไปแล้วให้หน่วยงานที่มีความสามารถในการกำจัดเก็บไปทำลายอย่างถูกวิธีต่อไป รวมทั้งการตรวจสอบว่าคราบน้ำมันลอยมาจากไหน เพื่อติดตามมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.