โชเฟอร์แท็กซี่ไอเดียเก๋ ปรับแต่งรถคู่ใจ เปิดท้ายขายแมสก์ หารายได้ประทังชีวิตสู้วิกฤติโควิด
( 26 กรกฏาคม 2564) ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านโชคชัย 4 ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านขายหน้ากากอนามัยเคลื่อนที่ โดยมีการวางหน้ากากอนามัยประเภทต่างๆ หลากหลายสีสัน จนเต็มท้ายรถ และมีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อหน้ากากอนามัยกันอย่างต่อเนื่อง
นายไตรภพ ราชแสนเมือง อายุ 49 ปี พ่อค้าขายหน้ากากอนามัยไอเดียเก๋ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทำอาชีพคนขับรถทัวร์รับส่งนักท่องเที่ยว และพอมีเวลาว่างจากการรับทัวร์ ก็ไปออกรถเก๋งมาขับแท็กซี่เพื่อหารายได้เสริม ก่อนโควิดระบาดถือว่ารายได้ดีทีเดียว เพราะทำงาน 2 ทาง แต่พอโควิดมา งานที่เคยทำก็ไม่มี นักท่องเที่ยวไม่เข้าประเทศทำให้ต้องตกงาน ครั้นออกมาขับแท็กซี่ก็เหมือนกัน นักท่องเที่ยวไม่มี ลูกค้าประจำที่เคยไปรับส่งแถวสนามบินมาพัทยา พัทยามาสนามบินก็หมดไป เลยผันตัวเองมาขายหน้ากากอนามัย
โชเฟอร์แท็กซี่คนขยันกล่าวอีกว่า แรกๆก็ลองขาย ลงทุนประมาณ 5,000 บาท พอขายได้ แต่เนื่องจากว่ายังไม่มีที่ขายเป็นหลักแหล่ง ไม่มีหน้าร้าน และก็ไม่รู้ว่าขายตรงไหนจะดี เลยเกิดไอเดีย เปิดท้ายรถแท็กซี่ขายของโดยตกแต่งร้านให้ดูสวยงาม มีของแน่นๆ ราคาไม่แพง วิ่งตระเวนหาแหล่งขายไปเรื่อยๆ
นายไตรภพ กล่าวว่าตอนนี้ขายมาเกือบปี มีลูกค้าก็มาเรื่อยๆ รายได้ต่อวันถือว่าพออยู่ได้ ไม่เดือดร้อน เนื่องจากว่าหน้ากากอนามัยปัจจุบันนี้กลายเป็นของจำเป็นและเป็นของที่ใช้แล้วต้องทิ้งเปลี่ยนใหม่ทุกวัน อีกทั้งทุกวันนี้ก็มีสีสัน รูปแบบออกมามากมาย ทำให้ทางร้านต้องไปหามาเพื่อบริการลูกค้าที่สนใจ ทำให้ของที่ร้านดูแน่น ดูสวยและมีสีสัน ซึ่งการเปิดท้ายขายของนี้ตัวเองได้เลียนแบบมาจากสมัยก่อนที่มีการเปิดท้ายขายของกันตามตลาดนัด และแทบไม่ต้องลงทุนเรื่องสถานที่อะไรมากมาย เพราะช่วงนี้รายได้หายไปทุกทาง จะเหลือทางเดียวก็คือขายหน้ากากอนามัยที่พอจะประทังชีวิตไปได้ และคิดว่าน่าจะเป็นของขายได้ต่อไป เนื่องจากว่าปัจจุบันกลายเป็นของที่จำเป็นของทุกคนไปแล้ว
สำหรับร้านขายหน้ากากอนามัย เคลื่อนที่นั้นคิดว่าเหมาะกับรูปแบบของการขายของตัวเอง เนื่องจากว่าสามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปขายที่ไหนก็ได้ ได้เปิดตลาดไปหลายๆที่ ปัจจุบันนี้อะไรทำได้ก็ต้องทำ เพราะไม่รู้ว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาเมื่อไหร่ ถ้ากลับมาเหมือนเดิมก็อาจจะขายหน้ากากอนามัยควบคู่กับงานเดิมเพื่อเสริมรายได้ด้วย.
