วันอังคาร, เมษายน 23, 2024
Latest:
+บริหารท้องถิ่น

นายอำเภอจับมือนายกเมืองพัทยาวางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนชาวพัทยา

จากกรณีที่เมื่อกลางดึกของวันที่ 3 ตุลาคม 2563 ได้เกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ติดต่อกันยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้ถนนทั้งเส้นหลักหลายจุด มีปริมาณน้ำเอ่อขึ้นท่วมขังสูงตั้งแต่ 10- 80 เซนติเมตร สร้างความเสียหายให้กับรถที่สัญจรผ่านไปมา รวมไปถึงบริเวณหาดทรายที่ปรับภูมิทัศน์ ให้สวยงามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ก็ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนได้รับความเสียหาย และยังส่งผลกระทบให้กำแพงบ้านของประชาชน พังถล่ม ทั้งน้ำและทรายทะลักเข้าบ้านเรือน ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนักหลายหลังคาเรือน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันถัดมา นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จิตอาสาอำเภอบางละมุง ลงพื้นตรวจสอบเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบให้ประชาชน ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำที่ทะลักเข้าท่วมขังจนได้รับความเสียหาย

ด้านนายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง ได้ชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาว่า การที่น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนนั้นเกิดจากน้ำระบายไม่ทัน เมื่อมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนน้ำ จึงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จึงได้คุยกับนายกเมืองพัทยาแล้วว่าจะดูแลตรงนี้ให้ โดยจะประสานเจัาของที่ดินที่จะดำเนินการทำคันกั้น ส่วนทรายที่ทะลักเข้าไปในบ้าน ทางเมืองพัทยาและจิตอาสาก็ได้ช่วยกันขนออกแล้ว

นอภ.บางละมุง กล่าวอีกว่า เมืองพัทยาและอำเภอบางละมุง ได้เข้ามาตรวจสอบตั้งแต่คืนวันที่ฝนตกหนักแล้ว ยืนยันจะดำเนินการให้เร็วที่สุด และทางเมืองพัทยาจะรายงานปัญหาอุปสรรคไปอำเภอและทางจังหวัดต่อไป ตอนนี้ก็มอบถุงยังชีพเป็นการเยียวยาเบื้องต้นก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ที่ตรงนี้เป็นพื้นที่เก่าแก่ เป็นชุมชนดั้งเดิม เป็นพื้นที่ต่ำ ก็จะประสานเจ้าของที่ดินด้านกำแพงให้ทำตาม พ.ร.บ.ขุดดินถมดิน ที่จะต้องแก้ปัญหาโดยทำแนวคันกั้นทั้งหมด แล้วมาดูภาพรวมทั้งหมดของจุดเกิดเหตุ โดยทางเมืองพัทยาได้ลงพื้นที่และจะหาแนวทางการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด

ส่วนสภาพภายในตัวบ้านนั้น ทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันขนทรายออกและทำความสะอาดเพื่อเข้าอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราวก่อน ซึ่งชาวบ้านก็จะติดตามรอการแก้ไขของทางภาครัฐต่อไป.