ชาวบ้านร้องจัดระเบียบสายสื่อสารไม่ครอบคลุม ชุมชน-พื้นที่ปิดยังมีสภาพเหมือนเดิม ไร้ระเบียบสุดอุดจาดตา
จากกรณีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดสรรงบประมาณกว่า 11,668 ล้านบาท เพื่อจัดทำระบบสายไฟฟ้าลงดิน ในโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ที่กำหนดระยะเวลาดำเนินการไว้ 5 ปี คือในระหว่างปี 2560-2564 ที่จัดทำในพื้นที่ 4 เมืองท่องเที่ยวหลักประกอบด้วย เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ และนครราชสีมา มีทั้งการก่อสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้า รวมทั้งการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในพื้นที่โครงการเพื่อเพิ่มความมั่นคงและเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ตลอดจนลดปัญหาและอุปสรรคด้านการบำรุงรักษาและความปลอดภัยในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ที่มีศักยภาพสูงทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงระบบไฟฟ้าที่จะต้องรองรับความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นได้
สำหรับเมืองพัทยา ได้วางแนวทางดำเนินงานไว้ 3 ระยะ ในงบประมาณจำนวน 3,100 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างระบบจำหน่ายใต้ดิน งานระบบจำหน่ายแรงสูงเหนือดินพร้อม Overhead Ground Wire และงานรองรับการสื่อสาร รวม 9 เส้นทางหลัก ประกอบด้วย เส้นทางสายพัทยาเหนือ พัทยากลาง สุขุมวิท พัทยาสาย 1 พัทยาสาย 2 พัทยาสาย 3 ซอยบัวขาว พัทยาใต้ช่วงที่ 1 และพัทยาใต้ ช่วงที่ 2 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการบนถนนพัทยาเหนือเป็นโครงการนำร่อง และปัจจุบันได้จัดวางระบบ พร้อมรื้อถอนเสาไฟฟ้าตลอดแนวจนเสร็จสมบูรณ์ทำให้เกิดความเสถียรภาพในเรื่องของไฟฟ้า และทัศนียภาพ
ส่วนเส้นทางที่เหลือมีการวางระบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ประกอบด้วย ถนนพัทยากลาง จากปากทางถนนสุขุมวิทถึงถนนสายชายหาด ถนนพัทยาสาย 3 จากแยกพัทยากลาง-ท่าเรือบาลีฮาย และถนนสุขุมวิท จากพัทยากลาง-พัทยาใต้ ซึ่งทั้ง 3 เส้นทางมีแผนที่จะรื้อถอนเสาไฟฟ้าออกภายในเร็ววันนี้ ขณะที่การวางระบบในอีก 2 เส้นทางคือ ในโครงการวอล์กกิ้งสตรีท และถนนพัทยาใต้ จากปากทางสุขุมวิทถึงแยกพัทยาสาย 3 มีความคืบหน้าไปมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านภายในซอยโพธิสาร ต.นาเกลือ อ.บางละมุง ว่าที่ผ่านมา ยินดีที่เมืองพัทยาเป็น 1 ใน 4 ของเมืองท่องเที่ยวหลักที่ทาง กฟภ.ทุ่มงบประมาณในการจัดทำโครงการสายไฟฟ้าลงดิน ปัจจุบันทำเสร็จไปแล้วบนถนนพัทยาเหนือ ทำให้ไร้ปัญหาทางภาพลักษณ์การท่องเที่ยว สร้างความสวยงาม และยังลดปัญหาเรื่องของความเสถียรของการจ่ายไฟฟ้าไปตามแหล่งชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยว
กระนั้น การจัดโครงการอยู่ในพื้นที่ 9 ถนนเมนหลักของเมืองพัทยาเท่านั้น ขณะที่ถนนภายในตรอก ซอก ซอยต่างๆ ปัญหาของสายสื่อสารขององค์กรต่างๆ ที่มีการนำไปพาดเกี่ยวกับเสาไฟฟ้าของ กฟภ.ไว้ ยังมีสภาพรกรุงรังไม่แตกต่างจากในอดีตและกลับดูจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะตลอดซอยโพธิสาร และอีกหลายเส้นทางที่เป็นแหล่งชุมชน มีสภาพสายสื่อสารถูกเกาะเกี่ยวโยงพันกันไว้อย่างไร้ระเบียบ ซึ่งหลายครั้งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ปัญหาทัศนียภาพที่อุดจาดตา และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวกรณีที่สายสื่อสารบางเส้นทางห้อย ย้อยต่ำลงมาในระดับการสัญจรของผู้คน
ทั้งนี้ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตจากคนในโลกออนไลน์ว่า การที่เมืองพัทยาถูกวางให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการลงทุนของ EEC ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งนอกจากจะมีการทุ่มงบประมาณในการจัดทำโครงการสายไฟฟ้าลงดินในเมืองใหญ่แล้ว ยังมีการจัดสรรงบประมาณอีกหลายหมื่นล้านบาท อย่างโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ศูนย์ซ่อมอากาศยาน รวมไปถึงระบบโลจิส ติกส์ และการพัฒนาท่าเทียบเรือน้ำลึกทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง
แต่การปรับปรุงในหลายด้านที่เกิดขึ้น เน้นไปยังพื้นที่ที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเท่านั้น ขณะที่ย่านชุมชนหนาแน่นขนาดกลาง-เล็กที่ไม่ใช่พื้นที่เปิดหรือการเข้าถึงของนักท่องเที่ยวหรือคนต่างถิ่น ปัญหาเหล่านี้กลับยังไม่ได้รับการแก้ไข ดูแล หรือการจัดระเบียบความเรียบร้อยแต่อย่างใด เหมือนเป็นการซุกปัญหาไว้และสร้างภาพให้เกิดความสวยงาม ความเสถียรภาพ ตามงบประมาณและวัตถุประสงค์ของโครงการเท่านั้น.