“หมอชลน่าน” นำทีมเพื่อไทยรับฟังปัญหาภาคการท่องเที่ยว อ้อนพร้อมแก้ทั้งระบบ ขอเพียงได้เข้าบริหารแบบยกทีม
ที่โรงแรม อมารี ห้องอาหารเปรโก้ ( 19 มีนาคม 2566) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริยะเดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบาย พรรคเพื่อไทย นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเพื่อไทยชลบุรี เดินทางมารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว ผู้แทนจากภาคบริการ ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อภาคธุรกิจ โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ นายกเมืองพัทยา นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นางสาวพัชร์ศณัสม์ อัศวชัยโสภณ อุปนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา นายนิธิศ ไชสิทธิชัย ที่ปรึกษานายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก นาย ดำรงค์เกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นายเฉลิมพล โขนแจ่ม ผู้แทนสมาคมอสังหาริมทรัพย์ นาวสาว ชุติมา จิระมงคล คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองพัทยา นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองพัทยา นายกฤษณ์ จิระมงคล ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย/นายกสมาคมผู้ผสมเครื่องดื่มและบริการ นายมานิตย์ ขันธการ ประธานร่มเตียงจอมเทียน นางอรวรรณ สุขอนันต์วงศ์ นายกสมาคมชุมชนเมืองพัทยา นายมานะ ยาประคำ ประธานสภาวัฒนธรรมเมืองพัทยา นายนริศ เพ็ชรรัตน์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา เข้าร่วมชี้แจงปัญหาที่ภาคการท่องเที่ยว ภาคการโรงแรม และสังคม ต้องเผชิญในช่วงที่ผ่านมา จวบจนถึงปัจจุบัน
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงการพัฒนาเมืองพัทยาที่ปัจจุบันว่ายังคงติดปัญหาหลายด้าน ทั้งที่เมืองพัทยาเป็นเมืองพิเศษ แต่การดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆ จะต้องได้รับการพิจารณาจากส่วนกลางในการจัดสรรงบประมาณลงมาเพื่อพัฒนาพื้นที่อีกรอบ ซึ่งลักษณะดังกล่าวส่งผลในการพัฒนาเมืองพัทยาเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่หากมีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น สามารถบริหารจัดการทุกด้านได้ด้วยตัวเอง ทั้งในเรื่องของงบประมาณ การดำเนินโครงการต่างๆ เนื่องจากเป็นเมืองพิเศษ จะทำให้การพัฒนาเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น
ด้านนายบุญอนันต์ พัฒนาสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชี้แจงว่าในเรื่องของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ถือว่าเป็นสนามบินที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจใช้บริการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่าใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากมาย ใกล้เมืองพัทยา และเป็นสนามบินนานาชาติ แต่กลับไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสนามบินในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากติดในขั้นตอนของระบบการจัดการในรูปแบบทหาร การพัฒนาสนามบินในด้านต่างๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก ภาคธุรกิจไม่กล้าลงทุน เนื่องจากประสิทธิภาพในการรับนักทอ่งเที่ยวยังไม่ดี หากภาครัฐมีการส่งเสริมและพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้มีประสิทธิภาพในการสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่านี้ จะเป็นผลดีกับเมืองท่องเที่ยวอย่างเมืองพัทยาและภาคธุรกิจท่องเที่ยว สถานประกอบการ โรงแรม ในพื้นที่เมืองพัทยาได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก จะทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจสะพัดอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายดำรงค์เกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นที่โซนนิ่ง ซึ่งแผนการจัดระเบียนโซนนิ่งที่เมืองพัทยาใช้อยู่ปัจจุบันเป็นการแบ่งโซนนิ่งในปี 2525 และปัจจุบันยังคงใช้อยู่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับบริบทของเมืองพัทยา ณ ปัจจุบันแล้ว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น ภาคธุรกิจเกิดการลงทุนเพื่อรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่ในการพัฒนาส่งเสริมในรูปแบบการทำธุรกิจอยู่ในวงจำกัด ผู้ประกอบการแต่ละรายอยากประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง แต่ต้องมาถูกจำกัดด้วยกฎหมายการจัดพื้นที่โซนนิ่งเก่าๆ ที่ยังไม่มีการขยับขยาย เปลี่ยนแปลง รวมไปผถึงการขยายเวลาเปิด-ปิด ของสถานบริการ ที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาเพื่อพักผ่อน การออกมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากคนไทย คือ ออกมาเที่ยวกันประมาณ 5 ทุ่ม – เที่ยงคืน แต่สถานประกอบการบางแห่งต้องหยุดให้บริการเวลา 24.00 น. บางแห่งต้องปิดในเวลา 01.00 น. -02.00 น.แตกต่างกันไปตามการขออนุญาตในการประกอบกิจการแต่ละประเภท ทำให้เกิดความเสียหายด้านการท่องเที่ยว ในแต่ละวันวันสถานประกอบการเหล่านี้สูญเสียเงินจากการที่ต้องปิดเวลาตามกฎหมายกำหนด คือเวลา 24.00 น.ไปไม่น้อย หากเป็นไปได้ ภาคธุรกิจอยากให้มีการขยายเวลาตามห้วงเวลาที่เหมาะสมของสถานประกอบการนั้นๆ เพื่อช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ผู้แทนภาคการท่องเที่ยวหลายคน ยังได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในพื้นที่เมืองพัทยาหลายๆ กิจกรรม จะต้องขออนุญาตจัดงานไปยังจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ทางจังหวัดชลบุรีอนุมัติและดูความเหมาะสมว่าสามารถจัดงานได้หรือไม่ ทั้งที่การจัดงานในแต่ละครั้ง ได้รับการพิจารณาจากเมืองพัทยาไปแล้ว ส่งผลให้ผู้จัดงานต้องมากังวลใจว่างานจะได้ไปต่อหรือไม่ ทั้งที่เป็นการจัดงานเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่ และได้จัดสรรงบประมาณในการรองรับกิจกรรมเอาไว้แล้ว ดังนั้นการปลดล็อค ด้วยการให้อำนาจเมืองพิเศษในการบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ให้เป็นเมืองพิเศษที่แท้จริง เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสำคัญ
ที่ประชุมยังได้พูดถึงเรื่องของการจัดกิจกรรมตามเทรนด์การท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้ในต่างประเทศได้อย่างมหาศาล ซึ่งการจัดกิจกรรมตามเทรนด์นั้น ต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ลดขั้นตอนในการทำงานลง การจัดงานตามเทรนด์การท่องเที่ยวนั้น ในอนาคตอาจจะจัดทำกันมากขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้เข้าสู่เมืองท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องแล้วนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวมีความต้องการที่จะได้รับความสะดวกสบายในเรื่องของบริการคมนาคมขนส่ง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คนเร่ร่อนจรจัด ต้องหมดไปจากพื้นที่ แต่ในปัจจุบันการจับกุมคนเร่ร่อน ทำได้เพียงแค่การนำคนเร่ร่อนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว แต่ไม่นานก็กลับเข้ามาเหมือนเดิม บางคนนอกจากเป็นคนเร่ร่อนแล้ว ยังก่อเหตุชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว และทำลายทรัพย์สินแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งมีการเรียกร้องให้ภาครัฐมีกฎหมายออกดูแลเมืองท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัย และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ด้านนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเพื่อไทยชลบุรี กล่าวว่าการเข้ามารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในครั้งนี้ เพื่อเป็นการนำปัญหาที่ได้รับจากผู้ประกอบการตัวจริง ไปวางแผนในการแก้ไข ส่วนตัวเชื่อว่าเมืองท่องเที่ยวใหญ่ทุกเมือง ล้วนแล้วแต่มีปัญหาที่คล้ายๆ กัน แต่จะแตกต่างกันที่บริบทของวัฒนธรรม ประเพณี สังคม ของแต่ละพื้นที่เท่านั้น ในส่วนของคณะทำงานพร้อมเตรียมผลักดันให้ 8 จังหวัดภาคตะวันออก เป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหา โดยจะมีเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นโมเดลให้กับประเทศ
จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวขอขอบคุณผู้ประกอบการการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมธุรกิจบันเทิง และหลายๆ กลุ่ม ในพื้นที่เมืองพัทยา ที่มาร่วมกันในการเปิดเผยปัญหา เมืองพัทยาเป็นเมืองพิเศษ ปกครองโดยนายกเมืองพัทยา แต่กลับขาดเสถียรภาพในการจัดการ ส่วนตัวมองว่าเมืองพัทยา เป็นเมืองพิเศษ ที่ถูกครอบเป็นพิเศษ มีปัญหาเรื่อของโครงสร้างกฎหมาย วิธีปฏิบัติ การเชื่อมประสานหน่วยงานราชการ ทั้งหมดพรรคเพื่อไทยรับรู้และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน เน้นเรื่องของการกระจายอำนาจ มอบอิสระในการดูแลอย่างเต็มรูปแบบ ส่งเสริมในศักยภาพความเป็นเมืองที่มีหลายมิติ เกิดการเชื่อมโยงเชิงระบบทั้งหมด ข้อติดขัดด้านธุรกิจจะหมดไปด้วยนโยบายของเพื่อไทย ส่งผลให้ธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้น พร้อมมีกฎหมายพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อดูแลเมืองพิเศษ ที่พูดไปทั้งหมดคือความฝัน ซึ่งสามารถเป็นจริงได้ ถ้าประชาชนมอบให้เพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศแบบเต็มระบบ การเข้ามาทำงานนั้นถ้าไม่เด็ดขาด หรือไม่เต็มระบบ การพัฒนาหรือแก้ไขอะไรไม่สามารถขยับได้ ดังนั้นจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการขอคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทย เลือกทั้งคน ทั้งพรรค ให้ชลบุรีเป็นแลนด์สไลด์ให้ได้.