เจ้าท่าพัทยาพร้อมกู้เรือโจรสลัดคาเฟ่หลังเจอคลื่นซัดจมหน้าอ่าวแหลมบาลีฮาย พร้อมหาสาเหตุการจม
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา เรือคาเฟ่เรือโจรสลัด ที่ตกแต่งเรือเหมือนเรือในหนัง Pirates of the Caribbean โดยบนเรือมีทั้งอาหาร และเครื่องดื่มให้บริการ รวมถึงมีการแสดงดนตรีสด บริการตกหมึก โดยเรือมี 2 ชั้น มีที่นั่งให้เลือก 2 โซน สามารถมองเห็นวิวทะเลรอบเมืองพัทยา 360 องศา แต่ขณะทอดสมอหน้าอ่าวพัทยาใกล้แหลมบาลีฮาย เรือถูกคลื่นซัดอย่างหนัก ทำให้เรือจมลงในทะเล โดยมีเรือท่องเที่ยวหลายลำแล่นเข้าไปช่วยเหลือพนักงานที่อยู่บนเรือ ได้อย่างปลอดภัย
ด้านนายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา เปิดเผยถึงแผนกู้เรือคาเฟ่ที่จม พร้อมเผยสาเหตุว่าหลังจากที่เรือบรรทุกโดยสารชื่อ “ไทยแลนด์ เอ็กโพลเลอร์” เกิดอุบัติเหตุเรือเอียง ส่วนอีกทั้งกราบเรือด้านซ้ายจมลงในทะเลแต่ไม่ได้มีลักษณะจมทั้งลำ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีคลื่นลมแรง และภายในเรือมีผู้ดูแลเรืออยู่ 4 คน ที่ได้พยายามช่วยกันปั๊มน้ำออกจากตัวเรือ ด้วยเรือนั้นจอดทอดสมอหันท้ายเรือที่สู้คลื่น แต่ลักษณะของคลื่นในวันเกิดเหตุมีความสูงถึง 1.50 เมตร ถึง 2 เมตร ทำให้น้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าเรือจนมีอาการเอียง แม้ผู้ดูแลจะช่วยกันปั๊มน้ำให้ออกจากเรือ แต่ด้วยคลื่นลมที่แรง ทำให้น้ำไหลเข้าเรือจำนวนมาก
ทั้งนี้เจ้าท่าจัดส่งเรือตรวจการณ์เข้าช่วยเหลือและอำนวยการในพื้นที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมในทะเลค่อนข้างรุนแรง จึงทำให้ไม่สามารถขึ้นไปช่วยคนประจำเรือดำเนินการปั๊มน้ำออกจากเรือได้ และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่บนเรือประสบเหตุขึ้นจากเรือเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากกรณีอุบัติเหตุนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสีย ชีวิต และไม่มีคราบน้ำมันรั่วไหลออกจากเรือลงสู่ทะเล
นายเอกราช กล่าวอีกว่า เรือลำดังกล่าวอยู่ในสถานะงดใช้ เพื่อรอการเข้าอู่เพื่อรับการตรวจสภาพ แต่อยู่ระหว่างการรอกำหนดการของทางอู่ ทำให้ไม่สามารถนำเรือเข้าอู่ได้ จึงนำเรือมาจอดอยู่ที่บริเวณอ่าวพัทยา โดยหลังจากช่วยเหลือผู้ดูแลเรือลำดังกล่าวเสร็จ เจ้าท่าได้ประสานงานไปยังผู้ครอบครองเรือเข้าพบเพื่อเสนอแผนเร่งกู้เรือ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว เพราะหวั่นว่าหากปล่อยทิ้งไว้นาน ประชาชนและนักท่องเที่ยวจะมีการแชร์ภาพและสื่อสารข้อความแบบผิดๆ ออกสู่โลกโซลเซียล สร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา
ส่วนการกู้เรือนั้น นายเอกราช กล่าวว่าเจ้าหน้าที่เจ้าท่าได้เข้าตรวจสภาพบริเวณโดยรอบของเรือที่จม เพื่อหาจุดในการนำเครื่องมือทั้งถุงลม ปั๊มน้ำ เข้าไปภายในเรือเพื่อกำหนดจุดภายในเรือด้านบนว่าจะสามารถดำเนินการบนเรือได้มากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ได้ส่งนักประดาน้ำลงดูใต้พื้นท้องเรือว่าเรืออยู่ในลักษณะเอียงกี่องศา เพื่อจะได้เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ในการกู้เรือให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คาดว่าทีมเจ้าหน้าที่และผู้ครอบครองเรือจะเสนอแผนกู้เรือได้ ซึ่งการกู้เรือในครั้งนี้จะต้องไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้กำชับเจ้าของเรือให้ระมัดระวังในส่วนของถังแซท ถังน้ำมันต่าง ๆ จะต้องซีนและปิดให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้ของเหลวและของเสียออกจากเรือในขณะดำเนินการกู้เรืออยู่ โดยระหว่างการกู้เรือจะมีการนำบูมมากั้นกำหนดเขตพื้นที่ บริเวณใกล้ๆ เรือที่จม เพื่อป้องกันของเหลวต่างๆ เล็ดลอดออกมา การกู้เรือคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน จากนั้นจะนำตัวเรือที่จมขึ้นจากน้ำทะเล เพื่อให้เรือสามารถตั้งตรงได้ เพื่อตรวจสอบสิ่งแวดล้อมภายในตัวเรือต่อไป
นายเอกราช กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรือไทยแลนด์ เอ็กโพลเลอร์ จมนั้น หากจะให้ยืนยันในขณะนี้คงจะเร็วเกินไป แต่เชื่อว่าคอมพาร์ทเมนต์ส่วนหนึ่งของกราบซ้ายเรือน่าจะได้รับผลจากน้ำที่เข้าเรือ ส่วนน้ำจะเข้าไปในเรือได้อย่างไรนั้น จะต้องไปดูแนวน้ำ โดยเรือลำนี้จะต้องขึ้นอู่เพื่อตรวจสภาพดูสาเหตุที่แน่ชัดของการที่น้ำเข้าเรือ หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากผู้ดูแลเรือว่ามีการเปิดประตูห้องเครื่องชั้นล่างทิ้งไว้ ขณะที่วิ่งไปเอาปั๊มน้ำ ระหว่างนั้นมีคลื่นโยนตัวเข้ามาทำให้น้ำเข้ามาทางท้ายเรือและเข้าไปยังห้องเครื่อง ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากผู้ดูแลเรือถือเป็นข้อเท็จจริงในระดับหนึ่ง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดนั้น คงต้องรอให้เรือขึ้นคานก่อน โดยเจ้าหน้าที่งานตัวเรือจะเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง.