ไม่รอด! รวบแล้วหัวโจกแก๊งทวงหนี้บุกพูลวิลล่าย่านจอมเทียน เตรียมเผ่นข้ามแดน หลังสับขาหลอกตร.หาแพะมารับผิดแทน

จากคดีที่ไม่น่ามีอะไร กลายเป็นคดีซับซ้อน แต่ก็ไม่เกินความสามารถตำรวจชลบุรี ตามจับคนร้ายตัวจริง กรณีคดีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน พร้อมอาวุธปืนบุกพูลวิลล่า ย่านจอมเทียน สาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วก่อเหตุใช้ปืนตบกลุ่มวัยรุ่นในที่พัก ได้รับบาดเจ็บ 6 คน ยิงยางล้อรถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน และยังยึดบัตรประชาชน พร้อมขู่ฆ่ายกครัวหากแจ้งความ โดยจากการสอบสวนเบื้องต้น ระหว่างกลุ่มผู้ก่อเหตุลงมือ พยายามถามหา นายมิ้นท์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 23 ปี ซึ่ง นายมิ้นท์ ปีนรั้วหนีออกไปทางด้านหลัง จึงรอดตายหวิดหวุด และภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ นำไปสู่การออกหมายจับ นายจิรโรจน์ วัฒนะ ฉายา ‘หรั่ง พระราม2’ หนึ่งในผู้ก่อเหตุจากทั้งหมด 5 ราย

จากนั้น ช่วงเช้าวันที่ 19 ต.ค.นายจิรโรจน์ วัฒนะ อายุ 29 ปี หรือ หรั่ง พระรามสอง 1 ในผู้ก่อเหตุ ที่ถูกออกหมายจับ พร้อมพวกอีก 4 คน คือ นายบุญฤทธิ์ จิตรมา อายุ 24 ปี หรือ ฉุย บางบอน นายสราลัญ ยอดทัด อายุ 23 ปี หรือท็อป ตลิ่งชัน นายภูริชล คำจีน อายุ 30 ปี นายธนะพล คำเพ็ชร อายุ 27 ปี ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ทั้งหมดอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุที่ปรากฎในภาพวงจรปิด พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืน บีบีกัน จำนวน 2 กระบอก และ รถตู้ โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ฐ-8888 กทม. คันที่ใช้ในการก่อเหตุ

จากแนวทางการสอบปากคำ พร้อมทั้งให้กลุ่มผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน แต่ปรากฎว่า กลุ่มผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน นายจิรโรจน์ วัฒนะ อายุ 29 ปี หรือ หรั่ง พระรามสอง เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นไม่มีการชี้ตัวยืนยัน เพราะจำหน้าไม่ได้

ต่อมา ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รองผบช.ภ.2 ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าของพูลวิลล่า พาตรวจจุดต่างๆ จากนั้น พล.ต.ต.สุรจิต เปิดเผยว่า ที่พักบ้านพูลวิลล่าเป็นสถานที่ที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมไปชุมนุมกันในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นสถานที่ปิด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยากที่จะตรวจสอบ เพราะเป็นสถานที่รโหฐาน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความสามารถ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ในการสืบสวนหาข่าว ทั้งจากพลเมืองดี ประชาชน ชาวบ้าน ที่อยู่บริเวณข้างเคียง เมื่อมีการแจ้งเข้ามากองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจสอบทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการมั่วสุม โดยสถานที่เกิดเหตุนั้น เป็นลักษณะรีสอร์ทพูลวิลล่า จากตรวจสอบด้วยตนเองแล้วขอยืนยันว่า ไม่ใช่สถานที่มั่วสุม หรือแหล่งเสื่อมโทรมแต่อย่างใด กลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวตามปกติ ได้เข้าพักเพียง 1 วันเท่านั้นก่อนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ นายวรวิทย์ อายุ 23 ปี หนึ่งในคนเจ็บที่ถูกอาวุธปืนทุบหัว จนได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางมาห้องสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อชี้ตัวยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุ

กระทั่ง วันที่ 20 ต.ค.จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ก่อเหตุนานหลายชั่วโมง ความจริงจึงปรากฎว่า 5 คน ที่เข้ามอบตัวนั้น มี 2 คน รับจ้างมารับผิดแทน คือ นายบุญฤทธิ์ จิตรมา อายุ 24 ปี หรือ ฉุย บางบอน นายสราลัญ ยอดทัด อายุ 23 ปี หรือ ท็อป ตลิ่งชัน โดยอ้างว่าทำไปเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ และโดยจะได้รับค่าเสียเวลาวันละ 1,000 บาท

ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 189 “ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้น ด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และตำรวจได้ส่งตัวไปดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองชลบุรี

ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ถูกควบคุมตัวในขณะนี้ ยืนยันแล้ว 3 คน คือ นายจิรโรจน์ วัฒนะ อายุ 29 ปี หรือ หรั่ง พระรามสอง นายภูริชล คำจีน อายุ 30 ปี นายธนะพล คำเพ็ชร อายุ 27 ปี โดยตำรวจออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน คือ นายเอ็ม อายุ 37 ปี นายเต้ยหล่อ อายุ 26 ปี และนายดำ อายุ 26 ปี รวมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน

ส่วนสาเหตุในการบุกเข้าทำร้ายกลุ่มวัยรุ่นนั้น เบื้องต้นเป็นการมาตามหาลูกหนี้ แต่ไม่พบ จึงสร้างความโกธรแค้นและใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ของผู้เสียหาย 3 คัน ใช้ด้ามปืนทุบศรีษะทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย พร้อมข่มขู่ผู้เสียหายห้ามแจ้งความ ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี

กระทั่งเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดเชียงราย สามารถควบตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่หลบหนี ประกอบด้วย นายจักรกฤษณ์ พิลาวรรณ อายุ 37 ปี หรือ เอ็ม นายปวุฒิ ช่องสระ หรือ เต้ย อายุ 26 ปี และนายจิรวัฒน์ เย้ท่าพูด หรือดำ อายุ 26 ปี ซึ่งจับกุมตัวได้ที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขณะที่ทั้งสามกำลังเตรียมตัวจะหลบหนีออกชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า แกะรอยจับกุมตัวได้และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา

สำหรับปมการก่อเหตุ มีรายงานว่าเกิดจากการติดตามทวงหนี้ โดยเมื่อ 3 เดือนก่อน ผู้ก่อเหตุเคยติดตามไปทวงหนี้มาแล้วในพื้นที่ ชะอำ กระทั่งในช่วงกลางดึกของวันที่ 17 ตุลาคม นายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็ม หัวโจก ในแก๊งชายฉกรรจ์ เป็นผู้บงการ มีนายปวุฒิ หรือเต้ย เป็นคนขับรถ โดยก่อนออกเดินทางกลุ่มผู้ก่อเหตุได้นั่งตั้งวงดื่มสุราอยู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งในพื้นที่พระรามสอง ก่อนจะพาสมุน เดินทางยังเมืองพัทยาด้วยรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด มาก่อเหตุอุกอาจที่พลูวิลล่า ย่านจอมเทียน แล้วหลบหนีไป ก่อนจะถูกตร.แกะรอยตามจับกุมได้ในที่สุด.