เปิดใจ “สินธฺไชย วัฒนศาสตร์สาธร” เหตุหวนคืนสนามการเมือง สู้ศึกเลือกตั้งนายกพัทยา หวังแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างโปร่งใส

หลัง กกต.กำหนดการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และเมืองพัทยาในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม นี้ ทำให้การเมืองในพื้นที่เมืองพัทยาเริ่มมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ก่อนการประกาศรับสมัครอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม นี้ โดยกลุ่มหลักน่าจะเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมอย่าง “กลุ่มเรารักษ์พัทยา” ที่มีนายสนธยา คุณปลื้ม เป็นแกนนำ ที่ตัดสินใจดึง “ปรเมศวร์ งามพิเษฐ์” ผช.รมว.กระทรวงวัฒนธรรม และอดีต ส.ส.ชลบุรี มาลงสมัครแทน

ขณะที่ฝ่ายที่หลายคนจับตามองอย่าง “กลุ่มพัทยาก้าวหน้า” ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาปราศรัยเปิดตัวให้นั้น ส่ง “บ๊อบ – กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย” อาชีพช่างภาพอิสระมาลงแข่ง ด้วยความเป็นคนท้องถิ่นโดยกำเนิด ขณะที่ทีมที่กลุ่มการเมืองให้ความสนใจเป็นพิเศษที่จะเป็นคู่แข่งที่สูสีกับ “เรารักษ์พัทยา” ได้แก่ “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” ที่นำโดยนายนิรันดร์ วัฒนศาสตรสาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ที่ประกาศแยกตัวชัดเจนจากกลุ่มบ้านใหญ่ และเดินหน้าหาเสียงเพื่อรอการเลือกตั้งครั้งนี้มากว่า 2 ปี โดยให้นโยบายว่า “พื้นที่บ้านเราต้องดูแลด้วยคนบ้านเรา” เพราะรู้ปัญหา เข้าถึงชุมชน มิหนำช้ำยังระบุว่าตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องแบกรับการร้องเรียนจากประชาชนและเรียกร้องให้กลับมาลงสมัครเสียสละเพื่อบ้านเมืองอีกครั้ง

สุดท้ายกับผู้สมัครอิสระรายเดียวอย่าง “นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ” อดีตนายอำเภอบางละมุง และรองอธิบดีกรมการปกครอง ที่ประกาศผ่านโซเชียลว่าจะลงสมัครชิงชัยด้วยตัวเองในครั้งนี้ โดยไม่มีทีมงานร่วมเนื่องจากเคยทำงานในพื้นที่รู้สภาพปัญหาเป็นอย่างดี และอยากตอบแทนพื้นที่อำเภอบางละมุงที่เคยสร้างชื่อเสียงให้มาก่อนขณะดำรงตำแหน่ง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัครตำแหน่งนายกเมืองพัทยาทีม “พัทยาร่วมใจ” ที่มีนายนิรันดร์ วัฒนศาสตรสาธร อดีตนายกเมืองพัทยา พี่ชาย เป็นแกนนำว่า ที่ตนเองและพี่ชายตัดสินกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง หลังประกาศวางมือเพื่อมาทำธุรกิจครอบครัวตั้งแต่ปี 25447 แต่ด้วยตลอดระยะเวลากว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา เราได้รับเสียงสะท้อน ร้องเรียน และร้องขอให้กลับมาช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนและแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เนื่องจากประสพปัญหาความเดือดร้อนหลายด้าน ทั้งการประกอบอาชีพทำกิน สภาพปัญหาในพื้นที่ รวมทั้งเรื่องของความเป็นอยู่และการดำรงชีวิต หลังจากที่ต้องประสบกับปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 มานานกว่า 2 ปี จนทำให้เมืองพัทยากลายเป็นเมืองร้างและไร้นักท่องเที่ยว

ขณะที่ยังพบปัญหาสภาพการขุดเจาะทำถนน ขุดท่อระบายน้ำ และฟุตปาธเกิดขึ้นอย่างมากมายต่อเนื่อง จึงได้ตัดสินใจรวมกลุ่มคนทำงานซึ่งเป็นคนพื้นที่ มีถิ่นกำเนิดในเมืองพัทยา ร่วมกันเข้าพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อรับทราบความเดือดร้อนและความต้องการในการแก้ไขปัญหาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยตั้งสโลแกนของกลุ่มว่า “ชาวพัทยาคือผู้เปลี่ยนแปลง โดยท้องถิ่นต้องเป็นเรื่องของคนท้องถิ่น” หลังจากที่ปล่อยให้คนนอกพื้นที่เข้ามาดูแลนานนับ 10 ปีแล้ว ซึ่งอาจจะมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่หากเป็น “คนท้องถิ่น” ที่เข้ามาดูแลจัดการเองก็คงทำให้การแก้ไขตรงกับความต้องากรของพี่น้องประชาชน

สำหรับทีมงาน “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” แต่เดิมนั้น นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร ประกาศลงเป็นผู้สมัครนายกเมืองพัทยา แต่ด้วยมองเห็นศักยภาพว่าปัจจุบันเมืองพัทยา ซึ่งมีพื้นที่เพียง 54 ตร.กม.เป็นถือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของโลก ที่ถูกตั้งเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางทางการลงทุนและการท่องเที่ยว ดังนั้นจึงมีการผลักดันให้ “สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์ธร” เข้ามาลงสมัครแทน ด้วยเป็นคนรุ่นใหม่ มีประสบการณ์ทำด้านการธุรกิจและการเมืองมาอย่างโชกโชน ทั้งการบริหารธุรกิจโรงแรมในเครือครอบครัว อดีตนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวพัทยา ประธานที่ปรึกษาสมาคมฯ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเมืองพัทยา กรรมการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาชิกสภาเมืองพัทยา และยังทำงานในส่วนของอาสา สมัครในฐานะประธานเจ้าหน้าที่กู้ภัยอาสามูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานนาเกลืออีกด้วย ที่สำคัญยังมีสายสัมพันธ์ในการทำงานไล่มาตั้งแต่ระดับรัฐบาล ส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง และท้องถิ่น จึงถือว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถที่จะสามารถนำพาพัทยาไปสู่ความเจริญได้

นายสินธ์ไชย กล่าวว่าเป็นลูกแม่ค้าตลาดลานโพธิ์ มีความผูกพันและอยู่กับพื้นที่มาตั้งแต่เด็กจนโตมีความรักในบ้านเกิดอย่างเต็มที่ และไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวบารมีทีมคู่แข่งใดๆ เพราะต้องถือเป็นเรื่องของนโยบาย และความสามารถของผู้สมัครที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจ ส่วนตัวแล้วสิ่งสำคัญคือเรื่องปากท้องของประชาชนที่ต้องเร่งแก้ไขก่อน หลังจากประสบปัญหานาน ที่สำคัญการทำงานต้องโปร่งใสตรวจสอบและทุกโครงการต้องเกิดประโยชน์กับประชาชน บ้านเมือง และประเทศชาติ จึงต้องขอฝากทีม “พัทยาร่วมใจ” ที่จะมีการเปิดตัวในวันที่ 23 มีนาคมที่ตลาดนัดเมืองจำลอง ถนนพัทยาเหนือไว้ด้วย.