เกินคาดหมาย! “ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ” อดีตนอภ.บางละมุง เตรียมลงแข่งชิงเก้าอี้นายกเมืองพัทยา
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความเห็นชอบในการจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และนายกเมืองพัทยา และที่ประชุมครม.ได้ผ่านความเห็นชอบ เหลือเพียงรอให้ กกต.เคาะกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน พฤษภาคมนี้
สำหรับการลงสมัครแข่งขันในส่วนของเมืองพัทยา ปัจจุบันพบว่ามีผู้สมัครจาก 3 ทีมการเมืองที่มีความโดดเด่น และเปิดตัวลงพื้นที่หาเสียงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ทีมคณะก้าวหน้า” ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนนำ ซึ่งแม้จะรอวันเปิดตัวในเร็ววันนี้ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 11 มีนาคม แต่ได้ประกาศเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด ขณะทีมงานก็เดินหน้าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
งานนี้หวังเรียกกระแสคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเมืองพัทยา โดยประกาศผ่านเฟซบุ๊คระบุ “ผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit ว่า “คณะก้าวหน้า จะส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยาอย่างแน่นอน..ผมขอใช้สนามเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา เป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นตั้งใจของเราที่จะรับใช้พี่น้องชาวพัทยา พลิกฟื้นเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นให้ได้”
ขณะที่อีกทีมได้แก่ “นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร” อดีตนายกเมืองพัทยา ที่ควงคู่น้องชาย “สินไชย วัฒนศาสตร์สาธร” มันสมองของทีม ขนลูกทีมลงพื้นที่ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ในนาม “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” โดยประกาศแยกตัวจากซุ้มบ้านใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ต้องการนำพาเมืองพัทยากลับมาสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง หลังให้เหตุผลว่าจำต้องกลับมาลงสมัครอีกครั้งเพราะทนเห็นสภาพเมืองพัทยาที่เกิดปัญหามากมายไม่ไหว ขณะที่ส่วนตัวและทีมงานเป็น “คนท้องถิ่น” โดยกำเนิดจึงถือว่ามีความรู้ เข้าใจ และชำนาญ รวมทั้งประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของเมืองพัทยามาแล้ว
ฝากฝั่งทีมเต็งอย่าง “กลุ่มเรารักษ์พัทยา” ของ “สนธยา คุณปลื้ม” หลังใกล้หมดวาระ ก็มีการเตรียมความพร้อมในการแถลงผลงาน 3 ปี หลัง คสช.แต่งตั้งให้เข้ามาทำงานในตำแหน่งหน้าที่ “นายกเมืองพัทยา” ด้วยมีประสบการณ์ Connection ที่ดีทั้งในระดับรัฐบาล ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น จึงถูกวางให้ผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่ความเป็นศูนย์กลางทางการลงทุนและการท่องเที่ยวของพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมืองพัทยาผุดโครงการการพัฒนามากมาย ทั้งระบบสาธารณูปโภค การแก้ไขปัญหาซ้ำซากอย่าง น้ำท่วม การจราจร และสุขอนามัย รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งบนฝั่งและเกาะล้าน ตามนโยบาย “Neo Pattaya” ซึ่งยังอยู่ช่วงระหว่างดำเนินการจึงทำให้เห็นสภาพของการขุดเจาะ และก่อสร้างในพื้นที่มากมาย
งานนี้ทีม “เรารักษ์พัทยา” แม้ยังไม่มีการประกาศตัวผู้ลงสมัครในตำแหน่งนายกเมืองพัทยาว่าจะเป็นตัว “สนธยา” เองหรือไม่ แต่ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวในการมอบหมายให้ “ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์” อดีต ส.ส.ชลบุรี บุตรชายสุดที่รักของ นายสันต์ศักดิ์ จรูญงามพิเชษฐ์ อดีต รมช.สาธารณะสุข ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่จับตาว่างานนี้ “กลุ่มเรารักษ์พัทยา” น่าจะลง “ปรเมศวร์” ลงมาชิงชัย ซึ่งกรณีนี้อาจต้องออกกำลังภายในไม่ใช่น้อย เนื่องจากที่ผ่านมา “ปรเมศวร์” ลงพื้นที่ ส.ส.เขต 8 และไม่ค่อยเข้าพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่เมืองพัทยามากนัก ขณะที่การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดก็พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ โดยคะแนนในส่วนของพื้นที่เมืองพัทยาอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
สุดท้ายกับสิ่งที่หลายคนยังคงจับจ้องและเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเมื่อ “ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ” อดีตนายอำเภอบางละมุง และอดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง ประกาศโพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว “Sakchai Tanghoh” โดยมีข้อความว่า ” ใกล้ถึงเวลากลับไปทำงานต่อที่บางละมุง ซึ่งพัทยา เป็นส่วนหนึ่งของบางละมุงที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาและดูแลพี่น้องประชาชน ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอบางละมุง ผมจึงรู้ปัญหาและรู้เครื่องมือและกลไกที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับเมืองพัทยา #นายกเมืองพัทยา ”
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวออกมาว่า อดีตนอภ.บางละมุงรายนี้ อาจจะลงสมัครในกลุ่มของพรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.พิสุทธิ์ เตมียะเวส จึงทำให้การเลือกตั้งหนนี้เรียกได้ว่าดุเดือดเลือดพล่านอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในส่วนของ “ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ” เองเคยดำรงตำแหน่งนายอำ เภอบางละมุงในปี 2556 ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาแก้ไขปัญหามากมาย ทั้งเรื่องการบุกรุกที่สาธารณะ ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมเข้าถึงประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ถือว่าเป็นอีกบุคคลที่เป็นที่พึ่งของประชาชน รวมทั้งมีแนวคิด และวิธีการแก้ไขมาให้กับบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี กระ ทั่งได้รับรางวัล “นายอำเภอแหวนเพชร” ของกระทรวงมหาดไทยในช่วงการดำรงตำแหน่ง ดังนั้นการประกาศลงสมัครครั้งนี้จึงถือว่าสร้างความฮือฮาให้กับประชาชนชาวเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก