ดัน Sand Box พัทยาไม่คืบ ภาคธุรกิจเสนอใหม่ทำ Pattaya Move on เปิดแผน Seal Route รับนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อน ต.ค.64
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีการขอรับวัคซีนโควิด-19 จากภาครัฐ เพื่อมาฉีดให้กับบุคลากรส่วนหน้า ประชาชน และบุคลาการทางการท่องเที่ยวให้อัตราสัดส่วน 70 % ของประชากรกว่า 4.5 แสนคนให้ได้ทันก่อนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภายในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงแผนการผลักดันเพื่อให้เปิดเมืองพัทยารับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ทันกับฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาสสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง โดยจะเน้นให้มีการผลักดันการฉีดวัคซีนให้ได้ตามกำหนด แต่กลับพบว่าไทม์ไลน์การแจกจ่ายวัคซีนไม่มีการขยับตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งผิดไปจากแผนการจัดทำ Pattaya move on ที่ขยับมาจากการทำ Sand Box ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเป็นพื้นที่ๆที่มีสภาพต่างกันคือเป็นเกาะและแผ่นดินที่อาจทำให้การควบคุมตัวนักท่องเที่ยวลำบาก
นายธเนศ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้พอได้นำเข้าประชุมไปยังคณะกรรมการ ศบค. และส่งต่อไปยัง ศบศ.เพื่อให้พิจารณา โดย ททท.พัทยา เป็นผู้นำเสนอแผนดังกล่าวพร้อมระบุเปิดเมืองในเดือนตุลาคมนี้ เรื่องนี้ภาคเอกชนมองว่าหากเกิดข้อผิดพลาดและไม่สามารถดำเนินการเปิดเมืองได้ตามแผนที่วางไว้ก็คงต้องรอให้เปิดเมืองพัทยารับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้งถึงปี2565 จึงอยากเปิดรัฐรับพิจารณาเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบ soft opening ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมและกันยายน 2564 ไปก่อนในลักษณะ Seal Route เพื่อดูปัญหาอุปสรรคและนำไปปรับปรุงแก้ไข ก่อนจะมีการเปิดเมืองจริงในเดือนตุลาคม 2564 ต่อไป
ทั้งนี้จากแผนดังกล่าวกระทรวงสาธารณสุขได้มีการท้วงติงแผน Pattaya move on ภายใต้มาตรการ SOP ที่ว่าเมืองพัทยาเป็นพื้นที่เปิดมีพื้นที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงหลายแห่ง หากเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวหรือ Sand Box ในพื้นที่ 2 อำเภอหลักคือพัทยา-สัตหีบ อาจจะทำให้มาตรการในการควบคุมการป้องกันการแพร่ระบาดของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไม่สามารถควบคุมได้ แต่เพื่อให้ทันกับการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2564 จึงอยากให้มีการเปิดเมืองแบบ Seal Route ไปก่อน เนื่องจากรูปแบบนี้จะเป็นการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จะเข้าพักในโรงแรมและสามารถทำกิจกรรมในพื้นที่โรงแรมที่เข้าพักได้ จนครบเวลาที่กำหนดประมาณ 3-5 วัน จะสามารถออกเดินทางไปท่องเที่ยวได้ในเฉพาะสถานที่ที่ผ่านการตรวจและมีความปลอดภัยได้มาตรฐาน SHA + หรือสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน HA (Hospital Accreditation) ที่พนักงานต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 70% ตามสัดส่วน ขณะที่เส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวนั้นจะมีการดูแลทุกครั้งตามหลักการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งการขนส่งจากสนามบินสู่ที่พัก รวมไปถึงเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ ด้วย
นายธเนศ ระบุว่าส่วนเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้กับภาคท่องเที่ยวนั้น หากเมืองพัทยามีไทม์ไลน์ที่แน่ชัดเชื่อว่าภาครัฐจะมีการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เหมือนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้มีการสอบถามมายังภาคเอกชนพัทยาถึงความชัดเจนการเปิดเมืองท่องเที่ยวในเดือนสิงหาคมแลกันยายนนี้ เพื่อนำเรื่องไปเรียนพิจารณาต่อคณะกรรมการในส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องในการผลักดันวัคซีนมายังภาคท่องเที่ยวพัทยา ให้ครบ 900,000 โดส หรือ 4.5 แสนคนสัดส่วน 70 % ของประชากร และภาคบริการนักท่องเที่ยว ก่อนจะนำร่องให้เมืองพัทยาเป็นการท่องเที่ยวแบบ Seal Route ต่อไป.