เมืองพัทยา จับมือ โทรคมนาคมแห่งชาติ ทดลองติดตั้งเครื่องประตูสมาร์ทเกท บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายและเกาะล้าน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี และอำเภอบางละมุง มียอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจังหวัดชลบุรีถูกกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยมีมาตรการต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกเคหสถาน, ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 20 คน, งดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการให้ซื้อกลับบ้านได้จนถึง 21.00 น., ปิดสนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึง 21.00 น., ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโตรุ่ง เปิดได้ตั้งแต่ 04.00 น.ถึงไม่เกิน 23.00 น., ขอความร่ามมืองดการเดินทางออกนอกพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เมืองพัทยาร่วมกับ โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ทดลองติดตั้งประตูสมาร์ทเกท ซึ่งเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิ และฟังก์ชั่นจดจำใบหน้า ในการคัดกรองประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะล้าน โดยการทำงานของประตูสมาร์ทเกท ทำงานผ่านระบบ 5 G มีการเก็บข้อมูลประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปเกาะล้าน พร้อมมีการเสริมระบบความปลอดภัยในการป้องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการแสกนวัดอุณหภูมิร่างกาย หากประชาชนและนักท่องเที่ยวรายใดมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงเกินเกณฑ์กำหนด และไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาผ้า เครื่องดังกล่าวจะไม่เปิดประตูให้บุคคลนั้นเดินผ่านลงไปยังท่าเทียบเรือได้
ทั้งนี้การติดตั้งประตูสมาร์ทเกทที่ทำงานผ่านระบบ 5 G เป็น 1 ในการทำ MOU ร่วมระหว่างเมืองพัทยาและโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) มโครงการ 5 G ของเมืองพัทยา