สภ.เมืองพัทยา วางแนวปฏิบัติป้องปรามอาชญากรรม คาดโทษ ตร.หากเกิดเหตุซ้ำ
พ.ต.ท.นิทัศน์ แหวนประดับ รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยถึงการป้องกันเหตุอาชาญกรรมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ ซึ่งมีข่าวการวิ่งราวทรัพย์ ในพื้นที่ใกล้เคียง ว่า สภ.เมืองพัทยาได้มีการปรับแผนการป้องกันและปราบปรามให้มีความเข้มข้นขึ้น โดยได้มีการนำสถิติการเกิดเหตุที่ผ่านมานำมาวิเคราะห์ เพื่อให้ทราบถึงช่วงเวลาและพื้นที่ ที่เกิดเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้ง ในพื้นที่รับผิดชอบของสภ.เมืองพัทยา ซึ่งสภ.เมืองพัทยามีเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 8 เขตตรวจโดยเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นปล่อยบ่อยจะอยู่ในพื้นที่เขต 7 ตั้งแต่โค้งดงตาลไปสุดจอมเทียน ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้งจะเป็นช่วงเวลา 17.00น.ไปถึงช่วงเวลา 19.00 น.
รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยอีกว่า หลังพบสถิติดังกล่าว ก็ได้มีการปรับแผนการป้องกันของเจ้าหน้าที่สายตรวจในการเข้าพื้นที่ประจำจุดและออกตรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุมากยิ่งขึ้น พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ร้อยเวรสายตรวจ จำนวน 2 คัน ออกตรวจพื้นที่ด้านเหนือและด้านใต้ เพื่อค่อยระวังการก่อเหตุ ซึ่งหากในพื้นที่ไหนมีการเกิดเหตุอาชญากรรมซ้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตรับผิดชอบนั้นจะถูกลงโทษ และเพื่อเป็นการป้องกันเหตุสภ.เมืองพัทยา ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจร้านค้าทอง พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษนอกเครื่องแบบและกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน สามารถนำอาวุธปืนยาวเข้าร่วมตรวจร้านทอง นอกจากนี้ยังได้บูรณาการเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรร่วมมออกตรวจร้านทองและธนาคาร ซึ่งพอมีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจพื้นที่บ่อยครั้ง ส่งผลทำให้พื้นที่รับผิดชอบสภ.เมืองพัทยายังไม่พบมีการก่อเหตุอาชญากรรมวิ่งราวทรัพย์ ปล้นร้านทองและธนาคารแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ประมาท ยังมีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดต่อไปเพื่อไม่ให้การ์ดในการป้องกันเหตุตก
พ.ต.ท.นิทัศน์ เปิดเผยต่ออีกว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดส่งผลทำให้เศรษฐกิจซบเซา ทำให้มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก มีการก่อเหตุอาชญากรรม ฉกชิงวิ่งราวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ใกล้เคียง โดยผู้ก่อเหตุบ้างรายไม่ได้เป็นคนร้ายโดยอาชีพและไม่คิดที่จะก่อเหตุแต่อย่างใด แต่พอไม่มีรายได้ไม่เงินมาเลี้ยงชีพก็มีการก่อเหตุอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเป็นห่วงผู้ประกอบการร้านค้าทอง ด้วยราคาทองที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 30,000 บาท อาจจะเป็นแรงจูงใจให้คนคิดก่อเหตุอาชญากรรมขึ้น ซึ่งผกก.สภ.พัทยาได้มีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการก่อเหตุในร้านค้าทอง ในเขตพื้นที่รับผิดด้วยการจำทำแอพพลิเคชั่น เพื่อให้กับผู้ประกอบการร้านค้าทองค่อยแจ้งเหตุ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถแจ้งมายังสภ.พัทยาทันที แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะเข้าช่วยเหลือในเวลาที่รวดเร็ว
ทั้งนี้อยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนช่วยกันป้องกันตัวเองก่อนระวัดระวังเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่พบเห็นเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อจะสามารถเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที