“ผบ.ตร.”ปลื้ม! ทำหนังสือชมเชย “ตำรวจพัทยา” ทำงานเชิงรุก บุกทลายโรงงานผลิตปืนเถื่อน ตัดตอนวงจรอันตราย

จากการปฎิบัติการเชิงรุกของตำรวจเมืองพัทยา ที่สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมจนได้รับคำชื่นชมจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้เซ็นลงนามในบันทึกข้อความ ส่วนราชการ ตร.ที่ ๐๐๐๑(ผบ)/ ๒๑๙ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เรื่อง ขอขอบคุณและชมเชยการปฏิบัติงานกรณีการจับกุมคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ส่งถึง รอง ผบ.ตร.(ปป),ผบช.ภ.2 ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อทราบ

ตามที่ได้รับรายงาน ภ.จว.ชลบุรี (สภ.เมืองพัทยา) กรณีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา อายุ 27 ปี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย

1. ปืนแบลงก์กัน 3 กระบอก

2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 380 จำนวน 9 นัด บรรจุอยู่ในแม็กกาซีน

3. กล่องใส่ปืน 6 กล่อง

4. ซองพกใน 1 ชิ้น

5. สว่านไฟฟ้า2 เครื่อง

6. ดอกสว่าน 18 ดอก

7. หินเจียร 3 เครื่อง

8. แม็กกาซีน จำนวน 33 แม็ก

9. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 380 จำนวน 33 นัด บรรจุในกล่อง

10. ลำกล้อง

11. แท่นเจาะ/แท่นกลึง1 แท่น

12. แท่นยึดสว่าน 1 แท่น

13. ตะใบ 2 อัน

14. ค้อนยาง 1 อัน

15. โทรศัพท์ ยี่ห้อ POCO F5 PRO สีขาว 1 เครื่อง

ในข้อหา ฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และทำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้สำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต”เหตุเกิดที่ บ้านเลขที่ 62/157 (ห้องที่ 14) หมู่ที่ 12 ถ.เทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี นั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ได้ทำหน้าที่ในการป้องกันเหตุและปราบปราม ผู้กระทำความผิด บังคับใช้กฎหมายเพื่อตัดวงจรการก่อเหตุ ได้ปราบปรามการทำ และประกอบอาวุธที่น่าเชื่อว่า จะนำไปก่อเหตุร้าย หรือสนับสนุน ในการกระทำความผิดต่างๆ อันเป็นการทำหน้าที่การป้องกันอาชญากรรม ก่อนเกิดเหตุของตำรวจ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการก่ออาชญากรรมและประชาชนที่จะตกเป็นเหยื่อ ช่วยให้ประชาชนมีความปลอดภัย และได้เห็นมุมมองในการทำงานของตำรวจเชิงรุก สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน ในการเฝ้าระวังและให้ข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน อาชญากรรม สร้างสังคมที่น่าอยู่และมีความปลอดภัย

จึงขอขอบคุณ และชมเชยการทำงานของตำรวจ และผู้เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว นับเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งในการทำหน้าที่ ของตำรวจ ที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจในการป้องกันปราบปราม แก้ไขปัญหาอาชญากรรม โดยยึดหลักยุทธวิธีตำรวจ และการทำงานเป็นทีม สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา/ผู้กระทำความผิด เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทางอาญาและรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป จึงแจ้งมาเพื่อทราบและประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ลงชื่อ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.

สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ทำหนังสือขอบคุณและชมเชย การปฏิบัติหน้าที่เชิงรุกเป็นที่ประจักษ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สิริวัฒน์ คัชมาตย์ รองผกก.ป.สภ.พัทยา พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา และนายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบางละมุง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาที่ 218/2568 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ไปยังห้องเช่าเลขที่14 ภายในซอยกอไผ่ 14 หมู่ที่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากสืบสวนทราบแน่ชัดว่า บุคคลที่อยู่ห้องพักดังกล่าว ใช้ที่อยู่อาศัย ทำเป็นโรงงานขนาดย่อย ลักลอบผลิตอาวุธปืนเถื่อน ขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นทางออนไลน์ จึงได้รวบรวมหลักฐาน ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยา จากนั้นได้วางแผนเข้าจับกุม และนำกำลังเข้าปิดล้อมป้องกันคนร้ายหลบหนีไว้ทุกด้าน ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปเคาะประตูเรียก นายชัชวาลย์ อินทร์มงคล หรือ “เอ็ม” อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ กำลังอยู่กับแฟนสาว ได้เป็นผู้เปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้น และให้นายชัชวาล เป็นผู้นำตรวจค้นภายในห้องพักด้วยความสมัครใจ พบเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับใช้ในการผลิต,ดัดแปลงอาวุธปืนจากแบงค์กัน และพบอาวุธปืนที่ดัดแปลงเรียบร้อย พร้อมใช้งานซุกซ่อนอยู่ข้างเตียงนอน รวมทั้งกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง

เบื้องต้น นายชัชวาลย์ รับสารภาพว่า เป็นเจ้าของอาวุธปืนทั้งหมด และเป็นคนที่ทำอาวุธปืนดังกล่าว ขายให้ลูกค้าทางออนไลน์ ในราคากระบอกละ 13,000 บาท โดยศึกษาวิธีการทำจากอินเตอร์เน็ต สำหรับชิ้นส่วนต่างๆ สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ ปืนที่ทำทุกรุ่นทุกกระบอก ใช้งานได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับอาวุธปืนจริงทุกประการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน ดำเนินคดี

อั๋น พันดาว รายงานพิเศษ