เจ้าหน้าที่ระดมกำลังขับไล่ รื้อถอนเพิงพัก กลุ่มเร่ร่อนบุกรุกพื้นที่ในสัตหีบ แอบอ้างครอบครองปรปักษ์

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสัตหีบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเรือ ได้นำกำลังไปขับไล่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 41 ปี และ นางสาวซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ที่ไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดีของศาลจังหวัดพัทยา ก่อนนำกำลังเข้าไปแสดงตน และเข้าจับกุม แต่ทั้งหมดไม่ยินยอม โดยยืนอยู่ภายในรั้วไม้ในเพิงพัก ก่อนจะด่าทอเจ้าหน้าที่ ภายในบริเวณเพิงพัก ไม่ทราบเลขที่ ใน ม.8 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แต่ขณะนั้น นายเอ ได้ขี่ม้าที่เลี้ยงไว้หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งปิดล้อม จนมีการเจรจาอีกครั้ง และยอมให้จับโดยดี ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งทำบันทึกจับกุม นำตัวฝากขัง ศาลจังหวัดพัทยา ในขณะนั้น

ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปแล้วหลายครั้ง ตามหมายจับ และยังเคยนำเลื่อยยนต์มาไล่ฟันเจ้าหน้าที่ ก่อนจะประกันตัวออกมา และยังฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดีของศาลจังหวัดพัทยาอีก เข้าไปอาศัยในที่ดินของคนอื่น โดยอ้างครอบครองปรปักษ์ โดยล่าสุด นายเอ และ นางสาวบี ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ หลังไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดีของศาล

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดชลบุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชลบุรี(กอ.รมน.จว.ชบ.) และกำลังตำรวจสายตรวจกว่า 20 นาย ร่วมกันลงพื้นที่ขับไล่ รื้อถอน หลังพบว่ายังมีคนเข้าไปอาศัยในพื้นที่ดังกล่าวอีก โดยนำสัตว์ อาทิ ม้า และ ควาย ไปเลี้ยง พร้อมทั้งยังไม่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก

จากการตรวจสอบพบ นายอนันต์ อายุ 45 ปี กำลังอาศัยอยู่ในเพิงพักที่สร้างขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว และบอกว่าเป็นคนดูแลพื้นที่และดูแลสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้รีบดำเนินการย้ายออก ถ้าไม่ย้ายจะแจ้งดำเนินคดี ซึ่งเจ้าตัวได้ยินยอมย้ายออกโดยดี ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดชลบุรี ได้บันทึกภาพทรัพย์สินของผู้บุกรุก ก่อนรื้อถอนในทันที ส่วนสัตว์เลี้ยงได้ประสาน สถานที่เลี้ยงใกล้เคียงช่วยดูแลไปก่อนรอเจ้าของตัวจริงมาติดต่อขอรับกลับไปเลี้ยง และยังพบว่ามีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี มาพักอาศัยจึงมีการประสาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ร่วมเข้าตรวจสอบแต่ทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้ย้ายออกไปพักอาศัยที่อื่นแล้วกับผู้ปกครอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณดังกล่าว เจ้าของที่ดินได้มีการแจ้งความขับไล่ผู้บุกรุกมานานหลายปี ก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินขับไล่ผู้บุกรุก เพราะกลุ่มที่บุกรุกอ้างว่าครอบครองปรปักษ์ ในพื้นที่ดังกล่าวโดยชอบกฎหมาย และไม่ยอมออกไป จนต้องมีการขับไล่หลายรอบแต่กลุ่มดังกล่าวดื้อและต่อต้าน จนท.หลายครั้ง จนล่าสุดถูกจับกุมและถูกขังอยู่ในเรือนจำ กระทั่งล่าสุดพบว่ามีคนเข้ามาอยู่ในพื้นที่อีกครั้ง จึงมีการสนธิกำลังเข้ามาขับไล่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดอย่างจริงจัง พร้อมเตรียมก่อสร้างแนวรั้วและปักป้ายแสดงความเป็นเจ้าของ ทั่วบริเวณเพื่อป้องกันคนเข้าบุกรุกแอบอ้างครอบครองปรปักษ์ ต่อไป