วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 22, 2025
Latest:

ตลบหลัง! “แก๊งคอกม้า” ทีมสืบฯภาค2 ล็อกคาชายแดน! บัญชีม้า”มาเฟียคอลเซ็นเตอร์”

ผู้การสืบสวน ภาค 2 จัดหนักเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยการส่งทีมนักสืบมือฉมังระดับพระกาฬ ลงพื้นที่ชายแดนด้านอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมกับส่งสายลับเข้าแทรกซึมไปในขบวนการ “คอกม้า” ที่หลอกเหยื่อและพาคนไทยบางรายที่สมัครใจไปเปิดบัญชีม้า ก่อนจะส่งตัวข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติไปยังกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมทำงานให้กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ กระทั่ง “แก๊งคอกม้า”ตายใจ ขับรถมารับไปเปิดบัญชีม้า ตำรวจที่เกาะติดและจับตาดูความเคลื่อนไหว จึงบุกเข้ารวบตัวไว้ได้ พร้อมพยานหลักฐานมัดตัวดิ้นไม่หลุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปฏิบัติการในครั้งนี้ อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก. พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.สุริยะ โพธิ์ทองนาค ผกก.ปพ. พ.ต.อ.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ผกก.สืบสวน 3 พ.ต.ท.กัลป์ กลิ่นศรี รอง ผกก.สืบสวน 3 พ.ต.ท.ณธกร จันทร์ลอด รอง ผกก.สืบสวน 3 สั่งการให้ พ.ต.ท.สัมโมท อิงคยะกุล สว.กก.สืบสวน 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน3 บก.สส.ภ.2 ร่วมกันจับกุม นายชอบ อายุ 49 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายปราชญ์ปรัศว์ หรือ เต้ อายุ 50 ปี ภูมิลำเนา ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ นางแจ่มใส หรือ แจ่ม อายุ 49 ปี ภูมิลำเนา ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมของกลาง 8 รายการ ประกอบด้วย สมุดบัญชีธนาคารกสิกร สาขาโชคชัย นครราชสีมา เลขบัญชี 1973728586 และสมุดบัญชีธนาคารออมสิน สาขาโชคชัย นครราชสีมา เลขบัญชี 020415344827 ซึ่งบัญชีทั้ง 2 เล่ม เป็นชื่อของ น.ส.จันวดี เปิดบัญชีเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยทางตำรวจได้กันเจ้าของสมุดบัญชี ไว้เป็นพยานในคดีนี้

ส่วนของกลางอื่นๆ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน สีเงิน หมายเลขอีมี่ 1 : 868424067031537 หมายเลขอีมี่ 2 : 868424067031545 ใส่ซิมการ์ดหมายเลข 066 643 517 053 เครือข่ายทรูมูฟ เอช จำนวน 1 เครื่อง เป็นของนางแจ่มใส โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซุมเปอร์เลนส์ สีฟ้า หมายเลขอีมี่ 1 : 852931113856652 หมายเลขอีมี่ 2 : 352931113860886 ใส่ซิมการ์ดหมายเลข 066 928 418 611 เครือข่ายเอไอเอส จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของ นายชอบ และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเรียลมี สีทอง หมายเลขอีมี่ 1: 867067071397759 หมายเลขอีมี่ 2 : 867067071397542 ใส่ซิมการ์ดหมายเลข 093 746 8258 เครือข่ายเอไอเอส จำนวน 1 เครื่อง เป็นโทรศัพท์ของนายปราชญ์ปรัศว์

ตำรวจชุดจับกุม ยังยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแอลติส สีบรอนซ์ ทะเบียน 8 กธ 3716 กรุงเทพมหานคร รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีบรอนซ์ ทะเบียน 2กษ 9704 กรุงเทพมหานคร ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาใช้เป็นยานพาหนะที่พาสายลับมาส่งด่านอรัญประเทศ ร่วมเป็นธุระจัดหาบัญชีเงินฝากและนำพามาที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว พร้อมด้วยหลักฐานชิ้นสำคัญเป็น “แฟลชไดร์ฟ” บันทึกคลิปเสียง การสนทนาระหว่างสายลับกับ นางแจ่มใส จำนวน 1 อัน

ในเบื้องต้น ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือขายข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

สำหรับเบื้องหลังของปฏิบัติการ “ลากคอเจ้าของคอกม้า”ครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจสืบสวนภาค 2 ได้สืบสวนทราบว่ามีขบวนการจัดหาบัญชีม้า บุคคลที่เปิดบัญชีม้า และนำพาไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา โดยให้ค่าจ้างเปิดบัญชี แบ่งเป็นบัญชีออนไลน์ ราคา 8,000 บาท และบัญชีที่มีเล่มบัญชี ในราคา 10,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในขบวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนเข้าจับกุม โดยให้สายลับ ทำที่ว่าติดต่อสมัครงาน ผ่านแอปพลิเคชั่นเฟชบุ๊ค แล้วติดต่อคุยกันทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งทางแก๊งคอกม้าแจ้งว่าจะมีรถแท๊กซี่ มารับที่บ้านของสายลับที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อพาไปเปิดบัญชีที่สาขาธนาคาร แล้วมาส่งยังชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยรถที่จะส่งไปรับนั้น เป็นกลุ่มแท๊กซี่ Zello ก่อนเดินทางสายลับ แจ้งกลับไปว่า ได้เตรียมบัญชีธนาคารที่ผูกแอปพลิเคชันไว้ในเครื่องโทรศัพท์ที่เปิดไว้นานแล้วสำหรับใช้ทำงานในครั้งนี้ด้วย

ต่อมาเมื่อถึงวันเวลานัดหมาย นายชอบ ขับแท๊กซี่มารับสายลับที่้บ้านพัก จ.ชัยภูมิ ซึ่งนายชอบจะต้องพาสายลับไปเปิดบัญชีธนาคาร แต่ยังไม่มีการสั่งการมาว่าให้ไปเปิดที่สาขาใด จึงได้ออกเดินทางพามายังชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านคลองลึก-ปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระหว่างทาง นายชอบ ได้โทรศัพท์ประสานงานหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง และยังไม่มีการสั่งการให้เปิดบัญชีเพิ่มแต่อย่างใด นายชอบจึงแนะนำให้สายลับใช้บัญชีที่เตรียมมาไปก่อน

กระทั่งเดินทางมาถึง บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์ที่สายลับนั่งมา จึงได้สะกดรอยติดตามไปอย่างต่อเนื่อง ต่อมาผู้สั่งการได้ติดต่อ มายังสายลับแจ้งว่าจะมีคนมารับช่วงต่อเพื่อนำพาสายลับเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา

จากนั้น นางแจ่มใส และ นายปราชญ์ปรัศว์ ซึ่งเป็นผู้รับช่วงต่อ เดินทางมาถึง สายลับจึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุม และทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี

ในเวลาต่อมา ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบสวนขยายผล นายปราชญ์ปรัศว์ และนางแจ่มใส ให้การว่ารับงานมาจาก น.ส.ทิพย์ดารา หรือ ปู อายุ 47 ภูมิลำเนา ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และนายไกรเดช หรือ เดช อายุ 54 ปี ภูมิลำเนา ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้มารับคนที่หน้าด่านคลองลึก เพื่อพาไปส่งที่จุดลักลอบข้ามแดนบ้านยายหมู ช่องทางธรรมชาติ อยู่ที่บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อพาลักลอบข้ามแดนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา โดยทางตำรวจตรวจพบสลิปการโอนค่าจ้าง จึงเก็บไว้เป็นพยานหลักฐานในการสืบสวนต่อไป

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติการต้องคดีของทั้ง 3 คน พบว่า นางแจ่มใส เคยหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ ท้องที่ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มูลค่าทรัพย์ 5,000 บาท ส่วนนายชอบ และ นายปราชญ์ปรัศว์ ไม่พบมีประวัติการต้องคดี ไม่พบมีหมายจับค้างเก่า และไม่พบ Case ID คดีฉ้อโกงออนไลน์แต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวฝากไปถึงยังประชาชนทุกคนว่า บัญชีม้าถือเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการจัดหาบัญชีม้ามีความผิดข้อหา เป็นธุระจัดหาฯมีอัตราโทษสูงถึง 5 ปี ปรับ 500,000 บาท ผู้เปิดบัญชีม้า มีอัตราโทษ 3 ปี ปรับ 300,000 บาท ซึ่งที่ผ่านศาลลงโทษจำคุก เกือบทุกราย ขอให้ประชาชนอย่าเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งการจัดหาบัญชีม้า เป็นผู้เปิดบัญชีม้า หรือนำพาบัญชีม้าข้ามแดน นอกจากนี้ หากบัญชีม้ามีเงินจากการฉ้อโกง หลอกลวงโอนเข้าบัญชีจะมีความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนอีกคดีด้วย

อธิบดี บุญชารี รายงาน