ฝ่ายปกครองฯ สนธิกำลัง บุกทลายโกดังสินค้าจีน ยึดของส่อผิดกฏหมายเพียบ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 เมษายน 2568 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี นำกำลัง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ สังกัด สภ.บางละมุง และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าตรวจค้นโกดังเก็บและกระจายสินค้าของกลุ่มนายทุนชาวจีน เลขที่ 122/47 ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่า มีกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน เปิดโกดังเก็บสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมาย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นโกดังสินค้าดังกล่าว มีเนื้อที่ประมาณ 1 งาน สินค้าที่เก็บอยู่ในโกดังมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยารักษาโรค สินค้าที่ใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง สินค้าของตกแต่งบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และ สิ่งเทียมอาวุธ อาทิ อาวุธปืนปลอม สนับมือ กระบองโซ่บรูซลี จำนวนมาก โดยสินค้าส่วนใหญ่ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน วางกองพะเนินเต็มโกดัง นอกจากนี้ยังพบ ชายชาวจีน 1 คน ชายไทย 1 คน และผู้หญิงไทย 2 คน กำลังแพ็คสินค้าใส่กล่องพัสดุ เตรียมส่งให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ยุติการทำงาน พร้อมทั้งให้นำเอกสารการนำเข้าสินค้าดังกล่าวมาแสดง แต่ปรากฏว่าคนที่อยู่ภายในโกดังไม่สามารถนำเอกสารที่มาของสินค้าดังกล่าวมาแสดงได้ เบื้องต้นจึงตรวจยึดสินค้าทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบ
ขณะเดียวกันตำรวจได้เชิญตัว นายหลิน เฉิน อายุ 32 ปี ชาวจีน ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลโกดัง มาให้ข้อมูลกับตำรวจ โดยเบื้องต้นระบุว่าเป็นเพียงลูกจ้าง เพิ่งมาทำงานไม่กี่เดือน ส่วนนายจ้างเป็นชาวจีนเหมือนกัน เจ้าของตัวจริงอ้างว่าเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว แต่มอบหมายให้ ตนเองดูแลสินค้าและแพ็คของจัดส่ง ส่วนสินค้าที่นำมาเก็บไว้ในโกดังส่วนใหญ่ ถูกส่งมาจากประเทศจีน มาทางเรือขนส่งสินค้า จากนั้นจะเดินทางไปรับนำมาเก็บที่โกดัง และคอยรอรับยอดจำหน่ายจากฝ่ายขาย ซึ่งจะมีการนำเสนอขายสินค้าด้วยการไลฟ์ และนำเสนอขายบนโลกออนไลน์ พอมีลูกค้าสนใจและสั่งสินค้า ข้อมูลก็จะถูกส่งมาให้ตนเอง เพื่อทำการแพ็คและจัดส่งให้กับลูกค้าอีกรอบหนึ่ง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าบางรายการ พบว่าไม่ได้มาตรฐาน อาทิ อาหารเสริม ยารักษาโรค ไม่มี อย. ระบุที่ตัวสินค้า และถ้าหากสินค้าดังกล่าวถูกนำไปใช้ อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึด สิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งค่อนข้างเหมือนของจริงมาก และเข้าข่ายผิดกฎหมาย จากนั้น ควบคุมตัวชายชาวจีน รวมถึงพนักงานคนไทย ไปสอบสวนเพื่อขยายผลติดตาม เจ้าของตัวจริง เพื่อมานำดำเนินคดีต่อไป
