กรมปศุสัตว์ รับมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลาง 161 ตู้ ไปทำลาย

ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง บริเวณศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ด้วยเอกซ์เรย์ ( 29 กันยายน 2566) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีส่งมอบ – รับมอบ และนำตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลางในคดีพิเศษที่ 59/2566 จำนวน 161 ตู้ ไปทำลาย โดยมีนายสัตว์แพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวรายงานรับมอบตู้สินค้าของกลางฯ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวรายงานส่งมอบตู้สินค้าของกลางฯ นายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารระดับสูงและ หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม

จากการที่กรมศุลกากรได้ตรวจยึดซากสัตว์แช่แข็งตกค้าง โดยตรวจพบเป็นสินค้าประเภทซากสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าซากสัตว์ ดังกล่าวมาจากประเทศที่ไม่ผ่านการตรวจรับรองแหล่งผลิตซากสัตว์จากกรมปศุสัตว์ หรือมาจากประเทศที่กรมปศุสัตว์มีประกาศชะลอการนำเข้าซากสุกร เนื่องจากประเทศต้นทางมีการระบาดของโรคระบาดสัตว์ และบางส่วนไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน ประกอบกับไม่พบเอกสารใดๆ ที่รับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์ (Health Certificate) จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ผ่านการตรวจจากสัตวแพทย์ประจำท้องที่ต้นทางหรือพนักงานตรวจโรคสัตว์ ซึ่งถือว่าซากสัตว์ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาดหรือเป็นพาหะของโรคระบาดสัตว์ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้กำหนดจัดพิธีดังกล่าวเพื่อเป็นการ Kick off ตัดซีลและเผาทำลายซากสุกรของกลาง จำนวน 10 ตู้ เป็นการนำร่อง โดยเครื่องกำจัดซากสัตว์ติดเชื้อเพื่อควบคุมโรคชนิดเคลื่อนที่ ประสิทธิภาพของเครื่องกำจัดซากสัตว์ติดเชื้อเพื่อควบคุมโรคระบาดสัตว์ เป็นเตาเผาชนิด 2 ห้อง ใช้สำหรับเผาซากสัตว์ ความสามารถในการเผา สามารถเผาได้ในปริมาณ ชั่วโมงละกว่า 1,000 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของซากสัตว์ที่ทำการเผา เตาสามารถทำความร้อนได้ในขณะเผา 700-1000 องศาเซลเซียส ใช้น้ำมันดีเซลเป็นแหล่งพลังงาน โดยใช้ไม่เกินชั่วโมงละ 60 ลิตร และระบบเผาทำลายซากจะเป็นระบบปิด โดยในส่วนที่เหลือ จะนำไปทำลายในลักษณะฝังกลบ

แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงมีมรสุมเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้เกิดปัญหาฝนตกหนักในช่วงการฝังกลบ จึงทำให้เกิดอุปสรรค และมีความเสี่ยงทำให้เกิดความอันตรายต่อการทำลายลักษณะฝังกลบ จึงมีความจำเป็นที่ต้องฝังกลบในภายหลัง ในการฝังกลบจะใช้สถานที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ จังหวัดสระแก้ว โดยกรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับฝังกลบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.