สถานการณ์โควิด-19 ชลบุรี 30 พ.ค.2565 แนวโน้มดีขึ้น 2อำเภอไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ตายเพิ่มอีก 1 ราย

สสจ.ชลบุรีรายงานว่าวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ RT-PCR จำนวน 79 ราย ผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ATK 784 ราย

ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 1,033,831 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 2,222 คน (อัตราป่วย 214.93 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 3 ราย (0.29 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 3 ราย (0.29 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 9 ราย (0.87 ต่อแสนประชากร)

มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,977,970 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,685 คน (อัตราป่วย 85.19 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 18 ราย (0.91 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 11 ราย (0.56 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 17 ราย (0.86 ต่อแสนประชากร)

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 106,467 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 244,636 คน รวม 351,103 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 1,369 คน (อัตราป่วย 389.91 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 28 ราย (7.97 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 9 ราย (2.56 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 22 ราย (6.27 ต่อแสนประชากร)

วันนี้พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ราย (อายุ 53 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ การมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ (ไม่พบประวัติการรับวัคซีน)

ดังนั้นการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเข็มที่สาม ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นที่ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรียังไม่ได้รับการฉีดจำนวนมาก การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ยังมีอัตราอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากมาโดยตลอด ขอความร่วมมือให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครบตามเกณฑ์

ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี

ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน

ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม

ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ชิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้

ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี

วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น

1. วัคซีนเป็นหลัก วัคซีนมีความสำคัญมากในการเข้าสู่ภาวะการดำเนินชีวิตที่อยู่ร่วมกับโควิด-19 วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน

2. รู้จักป้องกัน ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป

3. แยกกักโควิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรกักตัว ไม่อยู่ในที่ชุมชน

4. เข้าสู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด คัดกรอง ATK เฉพาะผู้ที่มีอาการ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง หรือเป็นบุคลากรที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน

#วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น