โควิด-19 ชลบุรี 21 มี.ค.2565 ติดเชื้อใหม่ยังทะลุพัน ปอดอับเสบเพิ่ม 4 ราย สูงวัยตายเพิ่มอีก 3 ศพ ยังไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เวลา 06.30 น.สสจ.ชลบุรี รายงานว่าวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,128 ราย (ผู้ติดเชื้อยืนยัน RT-PCR)

1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 42 ราย สะสม 3,781 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,187 ราย

2. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 29 ราย

3. บุคลากรทางการแพทย์ 28 ราย

4. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 11 ราย ดังนี้
4.1 จังหวัดฉะเชิงเทรา 5 ราย
4.2 จังหวัดกาญจนบุรี 1 ราย
4.3 จังหวัดจันทบุรี 1 ราย
4.4 จังหวัดพิจิตร 1 ราย
4.5 จังหวัดราชบุรี 1 ราย
4.6 จังหวัดสุพรรณบุรี 1 ราย
4.7 จังหวัดอุบลราชธานี 1 ราย

5. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
5.1 ในครอบครัว 228 ราย
5.2 จากสถานที่ทำงาน 75 ราย
5.3 บุคคลใกล้ชิด 62 ราย
5.4 ร่วมวงสังสรรค์ 3 ราย

6. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 40 ราย

8. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 610 ราย

ณ วันที่ 21 มีนาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 904,827 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ5,202
คน (อัตราป่วย 574.92 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 4 ราย (0.44 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 2 ราย (0.22 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 6 ราย (0.66 ต่อแสนประชากร)

มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,900,418 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 7,959 คน (อัตราป่วย 418.80 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 21 ราย (1.11 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.26 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 11 ราย (0.58 ต่อแสนประชากร)

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 120,154 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 308,501 คน รวม 428,655 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 10,788 คน (อัตราป่วย 2,516.71 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 43 ราย (10.03 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 6 ราย (1.40 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 40 ราย (9.33 ต่อแสนประชากร)

วันนี้ พบผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 4 ราย (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2564 รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2564
และอีกสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน), พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 72 ปี, รายที่สองอายุ 77 ปี, รายที่สามอายุ 78 ปี, ) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2464, รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2464, รายที่สามไม่พบประวัติการรับวัคซีน)

ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด -19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น

ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี

ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน

ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม

ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ชิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้

ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี

ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น

1 ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK

2 เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปราะบาง เสี่ยงต่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว

3 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน

4 สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน

#ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน เข้าสู่โรคประจำถิ่น
#รู้หน้า_ไม่รู้ใจ_ไม่รู้ใครติดโควิดบ้าง